เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวว่านักเก็บกู้ทุ่นระเบิดกัมพูชาจะกลับมาปฏิบัติการกำจัดวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอีกครั้ง หลังจากสหรัฐฯ อนุมัติการยกเว้นเพื่อให้ประเทศยังคงสามารถให้ทุนสนับสนุนการทำงานในกัมพูชาต่อไปได้
กัมพูชายังคงมีระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอยู่เป็นจำนวนมาก ที่หลายลูกถูกทิ้งโดยกองกำลังของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม
กัมพูชาถูกบังคับให้ต้องระงับปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดบางส่วนตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. หลังจากวอชิงตันหยุดให้ทุนสนับสนุนกะทันหัน ตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้ระงับความช่วยเหลือต่างประเทศเป็นเวลา 90 วัน
เฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ระบุว่าสหรัฐฯ ได้อนุมัติการยกเว้นแบบมีเงื่อนไขสำหรับทุนสนับสนุนแก่องค์กรพันธมิตรที่สนับสนุนโครงการกำจัดทุ่นระเบิดของกัมพูชา
เขากล่าวว่าเขาได้ส่งนักเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่หยุดงานไปหลายสัปดาห์ กลับไปยังพื้นที่ปฏิบัติการ โดยปฏิบัติการกำจัดวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดจะเริ่มต้นอีกครั้งในวันจันทร์
“เราดีใจมากที่ได้กลับมาดำเนินภารกิจในการช่วยชีวิตอีกครั้ง” แก้ว สารัธ ผู้จัดการกองบัญชาการหน่วยกำจัดทุ่นระเบิดที่ 5 ของ CMAC ที่รับผิดชอบในการกำจัดทุ่นระเบิดตามจังหวัดทางตะวันออกที่ติดชายแดนเวียดนาม กล่าว
สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรสำคัญและให้เงินทุนประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อใช้ในการกำจัดทุ่นระเบิดในกัมพูชา
รัฐมนตรีอาวุโสของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดของกัมพูชายืนยันว่าสถานทูตสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการให้ทุนสนับสนุนการกำจัดทุ่นระเบิดต่อเนื่อง
เขากล่าวว่านักเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะสามารถกลับมาดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบได้ในเร็วๆ นี้
ในช่วงสงครามเวียดนาม ประธานาธิบดีรีชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐฯ ในขณะนั้นได้สั่งการให้ทิ้งระเบิดอย่างลับๆ ในพื้นที่ขนาดใหญ่ของลาวและกัมพูชา ซึ่งช่วยให้เขมรแดงขึ้นครองอำนาจ
หลังจากสงครามกลางเมืองยาวนานกว่า 30 ปีสิ้นสุดลงในปี 2541 กัมพูชากลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทุ่นระเบิดมากที่สุดในโลก
การเสียชีวิตจากเศษซากของสงครามยังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน ตั้งแต่ปี 2522 และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็น 2 เท่าของจำนวนดังกล่าว
พื้นที่ปนเปื้อนมากกว่า 1,600 ตารางกิโลเมตร ในกัมพูชายังคงต้องได้รับการเก็บกวาดทุ่นระเบิด
กัมพูชาตั้งเป้าที่จะปลอดจากทุ่นระเบิดภายในปี 2568 แต่รัฐบาลได้เลื่อนกำหนดออกไปอีก 5 ปี เนื่องจากความท้าทายด้านเงินทุนและพบทุ่นระเบิดแห่งใหม่ตามแนวชายแดนไทย.