เอเอฟพี - รัฐสภาเวียดนามอนุมัติแผนสร้างทางรถไฟมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์ จากเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของประเทศไปยังชายแดนจีน เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ และทำให้การค้าขายมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
เส้นทางรถไฟสายใหม่นี้จะวิ่งผ่านศูนย์กลางการผลิตสำคัญบางแห่งของเวียดนาม ที่เป็นที่ตั้งของบริษัท Samsung Foxconn Pegatron และบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาการส่งส่วนประกอบมาจากจีน
เส้นทางรถไฟดังกล่าวจะมีความยาว 390 กิโลเมตรจากเมืองท่าไฮฟอง ไปยังเมืองลาวกาย ที่อยู่ติดกับมณฑลยูนนานของจีน และจะวิ่งผ่านกรุงฮานอย เมืองหลวงด้วย
การก่อสร้างเส้นทางรถไฟนี้ได้รับการสนับสนุนจากการลงคะแนนเสียงของสมาชิกรัฐสภา 95% ตามการรายงานของผู้สื่อข่าวของเอเอฟพี
จีนจะจัดหาทุนบางส่วนผ่านเงินกู้สำหรับโครงการนี้ ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณมากกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์
เส้นทางรถไฟสายนี้จะเป็นหนึ่งใน 2 เส้นทางที่เชื่อมไปจีน ที่เวียดนามวางแผนไว้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสองเส้นทางหนึ่งแถบ ที่เชื่อมกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่ง
การอนุมัติดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงกว่า 1 ปี หลังจากประเทศเพื่อนบ้านให้คำมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งขึ้นระหว่างการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขณะที่ปักกิ่งพยายามต้านอิทธิพลของสหรัฐฯ มีต่อฮานอยมากขึ้น
โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของเวียดนามถือว่าค่อนข้างอ่อนแอ ที่เครือข่ายถนนมีปัญหาในการตอบสนองต่อความต้องการ และระบบรางยังไม่ได้รับการพัฒนา
เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับธุรกิจต่างชาติที่มองหาทางเลือกนอกเหนือไปจากจีน แต่โครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพต่ำถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนเพิ่ม
แดน มาร์ติน ที่ปรึกษาด้านธุรกิจระหว่างประเทศของ Dezan Shira & Associates กล่าวว่าเส้นทางรถไฟสายใหม่นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาในห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศที่เกิดจากการพึ่งพารถบรรทุกที่วิ่งช้าและมีต้นทุนสูงในปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดคอขวดที่ชายแดน
“จีนเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบจำนวนมากที่ใช้ในภาคการผลิตของเวียดนาม และการรักษาท่อส่งนี้ให้มีสถานะคงที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ” แดน มาร์ติน กล่าว
“การเชื่อมโยงรถไฟที่ทันสมัยช่วยขจัดความไร้ประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าจะเคลื่อนตัวได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะไหลเข้าสู่โรงงานของเวียดนาม หรือมุ่งหน้าไปสู่ตลาดโลกผ่านท่าเรือไฮฟอง” แดน มาร์ติน ระบุ
เวียดนามระบุว่าการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับเส้นทางรถไฟสายไฮฟอง-ลาวกาย จะเริ่มขึ้นในปีนี้และต้องการให้ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2573 แม้ว่าประเทศจะมีประวัติของความล่าช้าเมื่อดำเนินการโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ก็ตาม
เส้นทางดังกล่าวที่ครอบคลุม 9 จังหวัดและเมือง จะเดินทางตามเส้นทางทางรถไฟที่มีอยู่เดิมซึ่งสร้างขึ้นในช่วงอาณานิคมฝรั่งเศส
ปัจจุบัน รถไฟสามารถวิ่งบนรางด้วยความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เวียดนามกล่าวว่าเส้นทางใหม่จะรองรับได้ทั้งขบวนรถโดยสารและขบวนตู้สินค้าด้วยความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การเชื่อมโยงทางรถไฟจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ รวมถึงในภูมิภาค
แผนเส้นทางรถไฟนี้เกิดขึ้นเพียง 3 เดือนหลังจากเวียดนามอนุมัติแผนการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงมูลค่า 67,000 ล้านดอลลาร์จากกรุงฮานอยไปยังนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จำเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโต
ทางรถไฟดังกล่าวจะทอดยาวกว่า 1,500 กิโลเมตรจากเมืองหลวงทางตอนเหนือไปยังศูนย์กลางธุรกิจของประเทศในภาคใต้ ที่จะช่วยลดเวลาการเดินทางด้วยรถไฟในปัจจุบันจาก 30 ชั่วโมง เหลือเพียงประมาณ 5 ชั่วโมง
เส้นทางรถไฟอีกเส้นทางหนึ่งไปยังจีน ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา จะเชื่อมต่อกรุงฮานอยกับ จ.ลางเซิน ที่อยู่ติดกับเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีน โดยเดินทางผ่านอีกพื้นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยโรงงานการผลิตระดับโลก
ระหว่างการเยือนกรุงฮานอยของผู้นำจีน ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงมากกว่า 30 ฉบับ ที่รวมถึงการให้คำมั่นที่จะพัฒนการเชื่อมโยงทางรถไฟ
เวียดนามใช้แนวทางการทูตไผ่ลู่ลมมาเป็นเวลานานแล้ว โดยมุ่งมั่นที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับทั้งจีนและสหรัฐฯ
เวียดนามมีความวิตกกังวลร่วมกันกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของจีนในการอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท แต่เวียดนามก็ยังมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับจีนด้วย.