เอเอฟพี - บล็อกเกอร์และนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวเวียดนามถูกควบคุมตัวในกัมพูชานานกว่า 1 สัปดาห์ หลังถูกกล่าวหาว่าใช้หนังสือเดินทางปลอม ตำรวจและครอบครัวของเขาเปิดเผยกับเอเอฟพีวันนี้ (13)
ฮวิงห์ จอง เฮียว สมาชิกของครอบครัวผู้เห็นต่างที่มีชื่อเสียงที่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาทางการเมืองและสังคมต่างๆ มากมายในเวียดนาม อยู่ระหว่างเดินทางไปสหรัฐฯ ขณะถูกควบคุมตัวที่สนามบินในกรุงพนมเปญ
“เขาถูกควบคุมตัวโดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” พล.ต.สก สัมเนีย โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าว และเสริมว่าเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าเขาเดินทางเข้ากัมพูชาอย่างผิดกฎหมายหรือไม่
น้องสาวของฮวิงห์ จอง เฮียว ที่เป็นบล็อกเกอร์ฝีปากกล้าเช่นกัน ได้กล่าวกับเอเอฟพีว่า ตำรวจเก็บหนังสือเดินทางของเขาไว้ และขอให้เขาจ่ายเงิน 4,000 ดอลลาร์เพื่อปล่อยตัว
เฮียว ที่มาจาก จ.ดั๊กลัก ในเขตพื้นที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนาม กำลังเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อเยี่ยมเพื่อนก่อนมุ่งหน้าไปยังแคนาดาเพื่อไปหาลูกชายของเขา
“เฮียวไม่ได้ใช้พาสปอร์ตปลอม เราเป็นพลเมืองธรรมดา ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด” วี น้องสาวของเฮียว กล่าว
สื่อทุกสื่อในเวียดนามเป็นกิจการของรัฐ และบล็อกเกอร์อิสระเป็นสิ่งต้องห้าม
เวียดนามถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 174 จาก 180 ประเทศ ในดัชนีเสรีภาพสื่อโลกขององค์กรนักข่าวไร้พรมแดน
วีเพิ่งพ้นโทษจำคุก 33 เดือนเมื่อปีแล้ว หลังจากทาสีขาวลงบนธงชาติ
วี ที่เป็นผู้ได้รับทุนจากฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ สำหรับการเขียนบทความทางการเมือง กล่าวกับเอเอฟพีว่าตำรวจขู่ว่าจะจำคุกเธออีกครั้งหากเธอยังโพสต์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบนเฟซบุ๊กหรือช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง
เธอและพี่ชายได้วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นทางการเมืองและสังคมต่างๆ มากมายในเวียดนาม ตั้งแต่สิทธิของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ไปจนถึงภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อม และเสรีภาพในการแสดงออก
การควบคุมตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเจิ่น ดิง เจียน อดีตทนายความชื่อดังถูกจำคุกในเดือน ม.ค. เป็นเวลา 3 ปี จากการโพสต์เฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาที่ไม่ผ่านการรับรองความถูกต้อง ที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของศาลและผู้พิพากษาสูงสุดของศาลฎีกา
เมื่อวันพุธ สื่อของรัฐรายงานว่าอัยการได้สรุปคำฟ้องต่อนักข่าวอิสระชั้นนำ เจือง ฮวี ซาน หลังจากถูกจับกุมในเดือน มิ.ย.
ไม่นานก่อนการจับกุม เจือง ฮวี ซาน มุ่งเป้าวิจารณ์ โต เลิม ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในขณะนั้น รวมถึง เหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในระบบการเมืองของประเทศ
เมื่อปลายปีที่แล้ว ศาลของไทยได้ตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหวชาวเขาชาวเวียดนามที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเป็นเวลา 6 เดือน ในข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและอยู่อาศัยโดยไม่มีวีซ่า แม้ว่าเขาจะลี้ภัยอยู่ในไทยตั้งแต่ปี 2561 ก็ตาม.