MGR ออนไลน์ - รัฐบาลจีนจะจัดสรรเงิน 4.4 ล้านดอลลาร์ให้กัมพูชาเพื่อกำจัดทุ่นระเบิดในการประกาศสัปดาห์นี้ หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน สหรัฐฯ ได้ระงับความช่วยเหลือต่างประเทศเกือบทั้งหมด
การตัดสินใจเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่นำไปสู่การระงับโครงการกำจัดทุ่นระเบิดทั่วโลก รวมทั้งเงินช่วยเหลือแก่ศูนย์ปฏิบัติตการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ทำให้ศูนย์ระบุเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่าจะระงับปฏิบัติการใน 8 จังหวัดเป็นเวลา 85 วัน
สถานทูตจีนในกรุงพนมเปญได้แจ้งต่อรัฐบาลกัมพูชาเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือ โดยเงินช่วยเหลือจำนวน 4.4 ล้านดอลลาร์จะนำไปเป็นทุนสำหรับโครงการกำจัดทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งปักกิ่งเคยให้ทุนแก่กัมพูชาสำหรับโครงการคล้ายกันนี้ตั้งแต่ปี 2561
กัมพูชาเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีทุ่นระเบิดมากที่สุดในโลก โดยมีทุ่นระเบิดหลายล้านลูกและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอื่นๆ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน
วัตถุระเบิดดังกล่าวเป็นสิ่งตกค้างจากสงครามเวียดนาม เมื่อกองกำลังสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดอย่างหนักลงในพื้นที่บางส่วนของกัมพูชา ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังมีทุ่นระเบิดของจีนและรัสเซียจากยุคเขมรแดงในทศวรรษ 1970 และสงครามกลางเมืองกัมพูชาในทศวรรษ 1980
เมื่อเดือนที่แล้ว ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ระบุว่าจะระงับความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศมีเวลาทบทวนโครงการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการเหล่านั้นมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้วาระอเมริกาต้องมาก่อน
การระงับเงินทุนสำหรับโครงการทุ่นระเบิดในกัมพูชาอาจทำให้รัฐบาลไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของการปลอดทุ่นระเบิดได้ภายในสิ้นปีนี้
เฮง รัตนา ผู้อำนวยการ CMAC กล่าวกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีว่า ศูนย์วางแผนที่จะเลิกจ้างพนักงาน 210 คน จากพนักงานทั้งหมดประมาณ 1,700 คน โดยหน่วยงานได้รับเงินประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากรัฐบาลสหรัฐฯ
แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนจากปักกิ่งจะช่วยให้ CMAC ยกเลิกการเลิกจ้างพนักงานได้หรือไม่ เฮง รัตนา ระบุทางเฟซบุ๊กว่าเงินทุนบางส่วนจะนำไปใช้ในการฝึกอบรมและให้ความรู้
เอม โสวันนารา ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการระหว่างประเทศ กล่าวว่าความช่วยเหลือจากจีนต่อกัมพูชามักมาในรูปแบบของเงินกู้ แต่การที่สหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือ ทำให้ปักกิ่งมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพนมเปญ
“ผมอยากเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ไม่ควรเปลี่ยนนโยบายของตนเองที่มีต่อประเทศเล็กๆ มากเกินไป มิเช่นนั้น ประเทศเล็กๆ เหล่านั้นอาจหันไปหาประเทศอื่นเช่นจีน” เอม โสวันนารา กล่าว
เมื่อต้นสัปดาห์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำลาว กัมพูชา และเวียดนาม 17 คน ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเพื่อขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยุติการระงับความช่วยเหลือโครงการกำจัดทุ่นระเบิดของสหรัฐฯ
“การกำจัดทุ่นระเบิดไม่เพียงช่วยชีวิตคนเท่านั้นแต่ยังให้ผลที่วัดได้ จากการทำให้ดินที่ปนเปื้อนสามารถใช้งานสำหรับกิจกรรมทางการเกษตรและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ที่จะทำให้การพึ่งพาความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และผู้ให้ทุนรายอื่นๆ น้อยลง” เอกอัครราชทูตกล่าว
การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในภูมิภาคในการกำจัดทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดได้ช่วยเยียวยาบาดแผลในอดตีจากยุคสงครามเวียดนาม และยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย
“ในฐานะอดีตเอกอัครราชทูต เราสามารถรับรองได้ว่าโครงการเหล่านี้ช่วยให้เราพัฒนาผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ด้วยการสร้างความปรารถนาดีและยังให้การเข้าถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล” จดหมายเปิดผนึกระบุ.