MGR ออนไลน์ - พลเรือนกว่า 1,000 คน หลบหนีออกจากเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ และพื้นที่ใกล้เคียงทางภาคตะวันตกของพม่า เนื่องจากเกรงว่าจะถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลทหารและกองทัพอาระกัน (AA) กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่รุกคืบยังฐานที่มั่นของรัฐบาล ชาวบ้านระบุ
การยิงตอบโต้กันระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลและกองทัพอาระกันทำให้ชาวบ้านต้องหาที่ปลอดภัย ด้วยความกังวลว่าพวกเขาอาจโดนลูกหลงจากระเบิด การซุ่มยิง และการโจมตีด้วยโดรนหรือการโจมตีทางอากาศ หากความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น
จาก 17 เมืองในรัฐยะไข่ ขณะนี้มี 14 เมืองอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอาระกัน และเหลือเพียง 3 เมืองเท่านั้น คือ เมืองสิตตะเว เมืองจอก์พะยู เมืองมานออง และกองบัญชาการระดับภูมิภาคของสภาทหาร ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร
ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่ากองทัพอาระกันจะเปิดฉากโจมตีเมืองสิตตะเวในเร็วๆ นี้ และด้วยเหตุนี้ ชาวเมืองกล่าวว่าพวกเขากลัวว่าจะติดอยู่กลางการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย ที่กองพันทหารที่ประจำการอยู่ในสิตตะเวอาจใช้ปืนใหญ่โจมตี หากกองทัพอาระกันเปิดฉากโจมตี
เมืองสิตตะเวมีความสำคัญสำหรับรัฐบาลทหาร ที่ยึดครองพม่าจากการรัฐประหารในปี 2564 ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรายได้และสกุลเงินต่างประเทศที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการค้าขายน้ำมันและก๊าซของพม่าผ่านมหาสมุทรอินเดีย
นอกจากเมืองสิตตะเวแล้ว ประชาชนในเมืองระตีด่อง ปอก์ตอว์ และปอนนายุน ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับสิตตะเว ก็อพยพออกจากบ้านเรือนเช่นกันเพราะกลัวการโจมตี ชาวเมืองระตีด่องที่ขอไม่เปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยระบุ
“บางคนหนีออกจากสิตตะเวไปแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาต้องหนีกันอีก ผู้คนลำบากกันมาก ทั้งยังขาดแคลนเสื้อผ้า เสื้อกันหนาว และสิ่งของจำเป็นพื้นฐานต่างๆ หลังจากอพยพ” ชาวบ้านระบุ
การปิดกั้นเส้นทางคมนาคมของรัฐบาลทหารในรัฐยะไข่ ยังทำให้พลเรือนพลัดถิ่นเดินทางได้ยากลำบาก และทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น
ชาวเมืองสิตตะเวกล่าวกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีว่า กองทัพอาระกันล้อมเมืองด้วยกองกำลังจำนวนมาก ขณะที่กองทัพเสริมกำลังทหาร โดยเพิ่มกำลังทหารด้วยกองทัพนอกเมืองตามพื้นที่ต่างๆ ของเมืองและมหาวิทยาลัยสิตตะเว เพื่อเตรียมการป้องกัน
นอกจากนี้ โรฮิงญาหลายพันคนยังได้รับการฝึกทหารจากรัฐบาลทหาร แหล่งข่าวระบุ
“ทหารกำลังยิงโจมตี กองทัพเรือก็ยิงโจมตีเช่นกัน ผู้คนต่างหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าการต่อสู้จะเริ่มขึ้นตอนไหน” ชาวเมืองสิตตะเว กล่าว
สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อเดือนก่อนระบุว่ามีการยิงตอบโต้กันทุกวันระหว่างทหารของรัฐบาลและกองทัพชาติพันธุ์ รวมถึงการใช้โดรนโจมตี
สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีได้พยายามติดต่อทั้งโฆษกของกองทัพอาระกัน และโฆษกของรัฐบาลทหาร และอัยการของรัฐยะไข่ เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แต่ยังไม่มีคำตอบ
มัต ตุน นักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าเขาเชื่อว่ากองทัพอาระกันจะใช้ปฏิบัติการทางทหารในสิตตะเว หากการเจรจาทางการเมืองล้มเหลว
“สถานการณ์ในสิตตะเวกำลังทวีความรุนแรงขึ้น กองทัพอาระกันกำลังเตรียมที่จะดำเนินการปฏิบัติการทางทหาร ถ้าพวกเขาไม่สามารถหาทางออกทางการเมืองได้” มัต ตุน กล่าว.
