MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้สั่งการให้ทหารและเจ้าหน้าที่ต่างๆ ทวีความพยายามในการป้องกันสิ่งที่เรียกว่า ‘ปฏิวัติสี’ ขณะเดียวกันก็ให้ดำเนินการปราบปรามการประพฤติมิชอบของเยาวชน และการพนันทุกรูปแบบต่อไป เพื่อรักษาความมั่นคงสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัย
ผู้นำกัมพูชาได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และได้แสดงความขอบคุณกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานท้องถิ่นสำหรับความพยายามเชิงรุกในการดำเนินการนโยบาย ‘หมู่บ้าน-ชุมชนปลอดภัย’
“แม้ว่าจะมีความคืบหน้าที่สำคัญ แต่กระทรวงมหาดไทย สถาบันที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานปกครองระดับจังหวัด และกองทัพจะต้องรักษาการทำงานของตนไว้ เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในจังหวัดและเมืองต่างๆ” ฮุน มาเนต กล่าว
ผู้นำกัมพูชาได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม เช่น ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การประพฤติมิชอบของเยาวชน และการพนัน
เขาเรียกร้องให้มีมาตรการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการริเริ่มด้านการศึกษาเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้ลุกลาม
“อาชญากรรมเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างมุ่งมั่นและมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแค่ด้วยการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อบรรเทาปัญหาสังคม โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน” ฮุน มาเนต ระบุ
นายกฯ กัมพูชายังยอมรับถึงความท้าทายที่รัฐบาลเผชิญในปี 2567 ที่รวมถึงความพยายามของกลุ่มหัวรุนแรงที่พยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายผ่านการปฏิวัติสี และการพัฒนาของภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อนในระดับภูมิภาคและระดับสากล
อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่ารัฐบาลได้ดำเนินการขั้นตอนแรกของกลยุทธ์ 5 ข้อ สำเร็จแล้ว
“แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่รัฐบาลยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเมือง อำนาจอธิปไตยของประเทศ บูรณภาพแห่งดินแดน ความมั่นคงสาธารณะ และความปลอดภัยทางสังคม ขณะเดียวกันก็รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคไว้” ฮุน มาเนต กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์สังคมและการเมือง กล่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อจัดการกับความท้าทายทางสังคมของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
“รัฐบาล กระทรวง และสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องรีบแก้ไขปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการพนันทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันออนไลน์ และเพิ่มความพยายามในการปราบปรามการค้ายาเสพติด” นักวิเคราะห์ กล่าว
เนธ สะเวือน รองนายกรัฐมนตรีและประธานสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติของกัมพูชา กล่าวว่า การลักลอบขนยาเสพติดเข้ากัมพูชาเพิ่มขึ้นในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าการใช้ยาเสพติดตามไนต์คลับจะลดลงก็ตาม
“ในช่วงเวลาเพียง 11 เดือนกว่า ทางการได้จับยึดยาเสพติดที่ถูกลักลอบนำเข้าประเทศได้มากกว่า 11 ตัน” เนธ สะเวือน กล่าว และเสริมว่าผู้ลักลอบขนยาเสพติดใช้เส้นทางน้ำและระบบไปรษณีย์ในการขนยาเสพติดมากขึ้น.