MGR Online - ยึดได้แต่ปกครองไม่ได้ หลังพม่าถอนตัว สัมพันธ์ 3 ทัพชาติพันธุ์ "คะฉิ่น-โกก้าง-ตะอั้ง" ในรัฐฉานเหนือตึงเครียดหนัก เหตุพื้นที่ยึดครองทับซ้อน แบ่งกันไม่ลงตัว แม้ยังไม่จับอาวุธมาห้ำหั่น แต่หลายจุดเปิดศึกตะลุมบอนกันนัว
สำนักข่าว Kachin News Group รายงานเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ว่า ชาวบ้านเวียงแสง ตำบลเมืองโก อำเภอหมู่เจ้ จังหวัดหมู่เจ้ รัฐฉานเหนือ ได้ออกมาชุมนุมประท้วงกองทัพโกก้าง (MNDAA) ที่ได้นำกำลังทหารมาตั้งฐานปฏิบัติการไว้ในเขตชุมชน
บ้านเวียงแสงอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองโก เป็นหมู่บ้านของชาวคะฉิ่น มีประชากรประมาณ 200 หลังคาเรือน กองทัพโกก้างได้เคลื่อนกำลังพลส่วนหนึ่งจากบ้านเมืองปอที่อยู่ทางใต้ลงไป ขึ้นมาตั้งเป็นฐานปฏิบัติการไว้ที่นี่ โดยอ้างว่าเป็นชุมชนที่มีคนหนาแน่น แต่ชาวบ้านเวียงแสงไม่ต้องการให้มีฐานของทหารโกก้างอยู่ตรงนี้ เนื่องจากจุดตั้งฐานของกองทัพโกก้างเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ชาวบ้านมาใช้ตำข้าว เป็นที่ตั้งโรงสีข้าวของชุมชน มีลักษณะเป็นลานกว้างที่ชาวบ้านนำรถมาจอด และใช้เป็นสนามเด็กเล่น
นอกจากนี้ บ้านเวียงแสงและบ้านดอยส่าที่อยู่ติดกัน เป็นพื้นที่ภายใต้การดูแลของกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) และห่างลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านเวียงแสง ไม่ห่างจากบ้านเมืองปอ มีสำนักงานของ KIA ตั้งอยู่ ชาวบ้านจึงกลัวว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างทหารโกก้างกับทหารคะฉิ่น และชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อน
เมืองโกเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการใหญ่ กองทัพโกก้าง เป็นพื้นที่ชายแดนของอำเภอหมู่เจ้ ฝั่งตรงข้ามเมืองโกคือเมืองหมานซื่อ (Mangshi) หรือ "เมืองขอน" ในภาษาไต พื้นที่ระดับอำเภอของเขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งพัว เต๋อหง มณฑลยูนนาน แต่ทั้งในเมืองโกและเมืองขอน ก็ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวจิ่งพัว หรือชาวคะฉิ่น ดังนั้นจึงมีทหารคะฉิ่นเคลื่อนไหวอยู่ด้วย
หลังจากกองทัพพม่าได้ถอนทหารออกไปจากหลายพื้นที่ในรัฐฉานเหนือเมื่อต้นปี 2567 กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มได้เข้าไปควบคุมพื้นที่เอาไว้แทน แต่ปรากฏว่า ทหารของแต่ละชาติพันธุ์ต่างเกิดความขัดแย้งกันเอง เพราะพื้นที่ภายใต้การควบคุมของแต่ละกลุ่มทับซ้อน เหลื่อมกัน
วันพุธที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา เพจข่าว Ngao Leng Mun Mai ได้เผยแพร่คลิปการชกต่อยกันของทหารโกก้างกับทหารคะฉิ่นที่บ้านเมืองปอ คำบรรยายคลิปเขียนว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม ทหารคะฉิ่นกลุ่มหนึ่ง ได้เข้ามาเรียกเก็บภาษีจากพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดเมืองปอ แต่ขณะที่กำลังเดินเก็บเงินอยู่นั้น ทหารโกก้างอีกกลุ่มหนึ่งได้มาสั่งให้หยุด โดยบอกว่าเมืองปอเป็นพื้นที่ภายใต้การควบคุมของกองทัพโกก้าง จากนั้น 2 ฝ่ายได้โต้เถียงและลงไม้ลงมือกัน ก่อนที่ทหารคะฉิ่นจะล่าถอยออกไป
ก่อนหน้านี้ ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2567 เพจข่าว The Kachin Sub-State Media และ Ngao Leng Mun Mai ต่างเผยแพร่คลิปการทะเลาะวิวาทถึงขั้นลงไม้ลงมือกันระหว่างทหารโกก้างกับทหารคะฉิ่น ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง 3 วัน ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคม ที่บ้านป๋างยางค้า ตำบลเมืองจี้ เมืองก๊ตขาย จังหวัดหมู่เจ้ ครั้งที่ 2 เกิดในวันถัดมา (23 ธ.ค.) ในพื้นที่หนึ่งของเมืองโก และครั้งที่ 3 ในวันที่ 24 ธันวาคม ในอีกพื้นที่หนึ่งของเมืองก๊ตขาย
ไม่เฉพาะทหารโกก้างกับทหารคะฉิ่นที่มีความขัดแย้ง ตึงเครียด อันเกิดจากพื้นที่ภายใต้การควบคุมมีการทับซ้อนเหลื่อมกัน แต่ระหว่างทหารคะฉิ่นกับทหารกองทัพตะอั้ง (TNLA) รวมถึงระหว่างทหารโกก้างกับทหารตะอั้ง ต่างก็มีการกระทบกระทั่งถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นนำอาวุธออกมาห้ำหั่นกัน
วันที่ 22 มกราคม เพจข่าว Ngao Leng Mun Mai ได้เผยแพร่คลิปการยกพวกเข้าตะลุมบอนกันระหว่างทหารตะอั้งกับทหารคะฉิ่นในพื้นที่แห่งหนึ่งของจังหวัดหมู่เจ้ ส่วนเมื่อวันที่ 15 มกราคม เพจ The Kachin Sub-State Media ได้เผยแพร่คลิปการประจันหน้ากันระหว่างทหารตะอั้งกับทหารคะฉิ่น บริเวณด่านแห่งหนึ่งบนถนน ในอำเภอเมืองมีต จังหวัดเมืองมีต รัฐฉานเหนือ
เมืองมีตอยู่ติดกับเมืองกุ๊ต หรือโมโก๊ะในภาษาพม่า และเป็น 1 ใน 3 แหล่งหยกขนาดใหญ่ของพม่า เดิมเมืองกุ๊ตเป็นเมืองของชาวไทใหญ่ แต่ในยุคอาณานิคม ได้ถูกอังกฤษโยกให้ไปขึ้นกับภาคมัณฑะเลย์ (โปรดดูแผนที่ประกอบ)
ปัจจุบัน ในเมืองกุ๊ตมีการทำเหมืองหยกจำนวนหลายแห่งเพื่อส่งออกไปขายยังจีน โดยใช้พื้นที่เมืองมีตที่อยู่ติดกันเป็นเส้นทางขนส่ง ดังนั้นจึงมีกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มเข้ามาปักหลักตั้งฐานเคลื่อนไหวอยู่ในเมืองมีตเพื่อหาผลประโยชน์จากการขนส่งหยกจากเมืองกุ๊ตข้ามไปขายที่จีน.