เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสติน ของรัสเซีย ได้พบหารือกับประธานาธิบดีเลือง เกื่อง ของเวียดนามในวันพุธ (15) ในความพยายามที่จะเสริมการสนับสนุนจากพันธมิตรเก่าในขณะที่มอสโกถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นจากสงครามในยูเครน
การเยือนกรุงฮานอยเป็นเวลา 2 วันของมิชูสติน เกิดขึ้นครึ่งปีหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางเยือนกรุงฮานอย ที่ผู้นำระดับสูงของเวียดนามได้แสดงความปรารถนาที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศกับมอสโก ที่เป็นซัปพลายเออร์อาวุธหลักของเวียดนามมานานหลายทศวรรษ
ทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น
ในคำแถลงร่วมที่เผยแพร่ในวันพุธ (15) รัสเซียระบุว่า พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์แห่งชาติในเวียดนาม และทั้งสองประเทศจะทำงานเพื่อดำเนินโครงการน้ำมันและก๊าซร่วมกัน
เมื่อวันอังคาร (14) สองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ ที่เป็นหนึ่งใน 7 ฉบับในข้อตกลงความร่วมมือหลากหลายสาขา ที่ยังรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนามกล่าวว่าประเทศมีเป้าหมายที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายใน 5 ปี
ระหว่างการเยือนครั้งนี้ มิชูสตินได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงของเวียดนามทุกคน ทั้งโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานสมัชชาแห่งชาติ
รัสเซียเป็นผู้จัดหาอาวุธหลักของเวียดนามมาหลายทศวรรษ โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของการนำเข้าระหว่างปี 2538 ถึงปี 2566 แต่คำสั่งซื้อเริ่มลดลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น
ไม่มีการประกาศข้อตกลงเกี่ยวกับการป้องกันประเทศใดๆ ระหว่างการเยือนของปูตินในเดือน มิ.ย.ที่ผ่นมา แต่สองฝ่ายระบุในคำแถลงร่วมว่า ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงของพวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และมีส่วนสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค
ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการเยือนครั้งดังกล่าว ที่เกิดขึ้นขณะที่มหาอำนาจตะวันตกเพิ่มการคว่ำบาตรเพื่อจำกัดสงครามของรัสเซียในยูเครน ว่าทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมากในประเด็นระหว่างประเทศ.