MGR ออนไลน์ - นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นมา ตำรวจเวียดนามออกใบสั่งจราจรเข้มงวดขึ้น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ชาวเวียดนามเป็นจำนวนมาก หลังจากรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาให้ปรับผู้ที่ฝ่าไฟแดง ขี่รถมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า หรือใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่
พระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 168 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีใหม่ มีเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะให้ดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้นไปด้วย ตามการระบุของคนขับแท็กซี่ในกรุงฮานอย
คนขับรถบางคนถึงกับหยุดรถแม้สัญญาณไฟจราจรยังเป็นสีเขียว เพราะกลัวว่าสัญญาณไฟจะเปลี่ยนเมื่อเข้าสู่ทางแยก คนขับแท็กซี่กล่าว
“ผมคิดว่ากฎระเบียบใหม่นั้นเป็นเรื่องถูกต้อง แต่มันไม่สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบันของเรา ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก” คนขับแท็กซี่ กล่าวกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีโดยขอไม่เปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
“ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา การจราจรบางช่วงติดยาวถึง 300 เมตร แทนที่จะแค่ 100 เมตรอย่างเมื่อปีก่อน มันทำให้เสียเวลามาก ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็จะยิ่งทำให้คนแบบผมเสียรายได้” คนขับแท็กซี่ในกรุงฮานอย กล่าว
ด้านชาวเมืองนครโฮจิมินห์เผยกับสำนักข่าวว่าการเดินทางไปทำงานของเขาใช้เวลานานขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.
“ก่อนหน้านี้ผมใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปทำงานด้วยรถยนต์ แต่ไม่กี่วันมานี้ กลับใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ผมปฏิบัติตามกฎหมายเสมอและไม่เคยถูกปรับเงินเพราะฝ่าไฟแดง” ชาวเมืองโฮจิมินห์ กล่าว
ตัวอย่างของกฎจราจรใหม่ เช่น ค่าปรับสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ฝ่าไฟแดงเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านด่ง เป็น 18 ล้านด่ง (709 ดอลลาร์) ขณะที่ค่าปรับสำหรับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์จากความผิดเดียวกันเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านด่ง เป็น 4 ล้านด่ง (157 ดอลลาร์)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกออกใบสั่งจากการละเมิดกฎจราจรประมาณ 70 คน ในนครโฮจิมินห์ หลังจากเวียดนามคว้าแชมป์การแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ หนังสือพิมพ์ไซง่อนส่ายฝ่อง รายงานว่าการเฉลิมฉลองดังกล่าวทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดอยู่นานหลายชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้ถนนร้องเรียนว่าไฟจราจรที่ไม่น่าเชื่อถือกลายเป็นกับดักที่ทำให้ตำรวจสามารถออกใบสั่งปรับผู้ขับขี่ได้ เช่น ในกรณีหนึ่งระบุว่าไฟเขียวควรค้างอยู่เป็นเวลา 35 วินาที แต่กลับเปลี่ยนเป็นไฟแดงอย่างกะทันหัน โดยไม่เปลี่ยนเป็นไฟเหลืองก่อน และแยกบางแยก ไฟจราจรปรากฏ 3 สีขึ้นพร้อมกัน ทำให้ยากต่อการตัดสินใจว่าจะขับขี่อย่างไร ชาวเมืองกล่าว
นอกจากนี้ ป้ายจราจรหลายป้ายในกรุงฮานอยไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเนื่องจากมีต้นไม้ปกคลุม และเส้นถนนบางส่วนก็ซีดจาง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่แน่ใจว่าเครื่องหมายเหล่านั้นเป็นเส้นทึบหรือเส้นประ
ผู้อยู่อาศัยในกรุงฮานอยรายหนึ่งเสนอให้รัฐบาลชะลอการบังคับใช้กฎระเบียบใหม่จนกว่าโครงสร้างพื้นฐานการจราจรจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น.