เอเอฟพี - เวียดนามเตรียมจ่ายเงินให้ประชาชนที่แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำผิดกฎจราจรเป็นเงินสูงสุดถึง 5 ล้านด่ง (200 ดอลลาร์) ในขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ พยายามควบคุมผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรให้อยู่ในกฎระเบียบบนท้องถนนที่วุ่นวายของประเทศ
ตั้งแต่ต้นปี ทางการได้เพิ่มค่าปรับขึ้นสูงมาก ที่ผู้ขับขี่ทั่วไปแทบจะไม่สามารถจ่ายได้ รวมถึงการฝ่าไฟแดงและการใช้โทรศัพท์มือถือ
ภายใต้กฎระเบียบใหม่ ผู้ใดก็ตามที่รายงานการกระทำผิดกฎจราจรที่ได้รับการยืนยันในเวียดนาม จะได้รับเงิน 10% จากเงินค่าปรับที่เรียกเก็บ โดยสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านด่ง ทั้งนี้ ข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกเก็บเป็นความลับเพื่อความเป็นส่วนตัว
สื่อของรัฐรายงานอ้างคำกล่าวของตำรวจว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครได้รับเงินรางวัล
ในประเทศที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 7.7 ล้านด่ง การขี่รถมอเตอร์ไซค์ฝ่าไฟแดงจะเสียค่าปรับมากกว่า 6 ล้านด่ง ซึ่งมากกว่าค่าปรับเก่าถึง 6 เท่า
หากผู้ขับรถยนต์กระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน จะต้องเสียเงินค่าปรับเกือบ 20 ล้านด่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 6 ล้านด่ง
ส่วนค่าปรับสำหรับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
“ผมตกใจมากกับจำนวนค่าปรับ” เหวียน ก๊วก ฝ่อง คนขับแกร็บไบค์ที่สารภาพว่าฝ่าไฟแดงเป็นประจำในกรุงฮานอย กล่าว
“ตอนนี้ผมกลัวค่าปรับ ผมเริ่มทำตามกฎอย่างเคร่งครัดแล้ว” ฝ่องกล่าว และเสริมว่าเขาไม่ชอบที่ถูกเพื่อนร่วมเมืองถ่ายภาพและแจ้งตำรวจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งในกรุงฮานอยกล่าวกับเอเอฟพีว่า เขาเห็นคนขับขี่หลายคนร้องไห้เมื่อถูกปรับ
ข้อมูลสถิติของทางการระบุว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ประมาณ 77 ล้านคัน และรถยนต์ 6.3 ล้านคัน สัญจรบนท้องถนนในเวียดนาม
ในปี 2567 อุบัติเหตุจราจรคร่าชีวิตผู้คนไป 30 คนต่อวัน ในขณะที่การจราจรโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ต่างๆ ติดขัดอย่างมาก เนื่องจากผู้ขับขี่สัญจรโดยไม่สนใจสัญญาณไฟจราจร ป้ายจราจร และกฎต่างๆ.
