เอเอฟพี - ฮุนเซน อดีตผู้นำที่มีอิทธิพลของกัมพูชา เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายใหม่ เพื่อระบุให้ผู้ใดก็ตามที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลของลูกชายเขาเป็นผู้ก่อการร้าย ข้อเรียกร้องที่มีขึ้นขณะที่ประเทศฉลองครบรอบการโค่นล้มระบอบเขมรแดง
เขมรแดงภายใต้การนำของพลพต ปกครองประเทศอย่างสุดโต่งโหดร้ายจนทำให้ชาวกัมพูชา 2 ล้านคน เสียชีวิตจากความอดอยาก การใช้แรงงานหนัก และการสังหารหมู่
การปกครองของเขมรแดงได้สิ้นสุดลงในวันที่ 7 ม.ค.2522 เมื่อฮุนเซน อดีตนายทหารเขมรแดง นำกองกำลังเวียดนามเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อขับไล่ระบอบการปกครองที่โหดเหี้ยมนี้ออกไป
อดีตนายกรัฐมนตรีฮุนเซนก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 2566 และส่งไม้ต่อให้ฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของเขา
ในพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 46 ปี แห่งการสิ้นสุดการปกครองของเขมรแดงนี้ ฮุนเซนยังยกให้วันนี้เป็นวันเกิดที่ 2 ของกัมพูชา และขอให้ทางการปกป้องสันติภาพที่ได้มาอย่างยากลำบากของประเทศ
ฮุนเซน ที่มีลูกชายของเขานั่งอยู่เคียงข้าง ยังเรียกร้องกฎหมายใหม่เพื่อกำหนดให้ผู้ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลของฮุน มาเนต เป็นผู้ก่อการร้าย
ฮุนเซนกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวจะกำหนดให้บุคคลหรือกลุ่มใดก็ตามที่วางแผนหรือสมคบคิดที่จะสร้างขบวนการหัวรุนแรง ก่อความวุ่นวายและความไม่มั่นคงในสังคม ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐอื่น และพยายามโค่นล้มรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นผู้ก่อการร้าย ที่ต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
พรรครัฐบาลของฮุนเซนเฉลิมฉลองวันที่ 7 ม.ค. เป็นวันแห่งชัยชนะ ที่เป็นการฉลองการปลดปล่อยประเทศจากเขมรแดง แต่นักเคลื่อนไหวและนักการเมืองฝ่ายค้านระบุว่าวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการยึกครองกัมพูชาของเวียดนามที่ยาวนานนับทศวรรษ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า ฮุนเซน ที่ปกครองกัมพูชามาเกือบ 4 ทศวรรษ ใช้ระบบกฎหมายปราบปรามฝ่ายตรงข้ามการปกครองของเขา มีนักการเมืองฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวหลายคนถูกตัดสินจำคุกในช่วงที่ฮุนเซนปกครองประเทศ
ศาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติได้ตัดสินความผิดกับผู้นำระดับสูงของเขมรแดง 2 คน จากข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี 2561 แต่ พลพต ผู้นำระบอบเขมรแดง หรือที่รู้จักในชื่อ ‘พี่ชายหมายเลข 1’ ไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเขาเสียชีวิตในปี 2541 ก่อนที่ศาลจะจัดตั้งขึ้น.