เอพี - พม่าที่อยู่ภายใต้การปกครองของทหาร และมีชื่อเสียงในเรื่องการปราบปรามเสรีภาพในการพูด ได้ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ฉบับใหม่ ที่ควบคุมการไหลของข้อมูลอย่างกว้างขวาง ตามเนื้อหาของมาตรกาที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ข้อจำกัดต่อเสรีภาพในการแสดงออกที่มีอยู่ในปัจจุบันภายใต้การปกครองของทหาร โดยทั่วไปแล้วเกี่ยวข้องกับข้อหาตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่กำหนดขอบเขตอย่างกว้างๆ เกี่ยวกับเนื้อหาออนไลน์ และยังมีการดำเนินการเพื่อบล็อกเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในระดับเครือข่าย ที่ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปลายทางเข้าถึงเนื้อหาที่กองทัพไม่ต้องการให้พวกเขาเห็น โดยเทคโนโลยีจากจีนและรัสเซีย พันธมิตรของกองทัพที่ปกครองประเทศถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเฝ้าติดตามและเซ็นเซอร์
กฎหมายฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบทบัญญัติครอบคลุมที่ส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่วิธีการสื่อสารและผู้ให้บริการเช่นเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPNs) ที่สามารถช่วยหลบเลี่ยงการบล็อกเครือข่ายได้ โดย VPN เชื่อมต่อผู้ใช้งานกับเว็บไซต์ที่ต้องการผ่านคอมพิวเตอร์บุคคลที่สาม มีผลในการปิดบังข้อมูลจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและรัฐบาลที่สืบดูเนื้อหาที่พวกเขาเข้าถึง
ประเทศในเอเชียอื่นๆ จำนวนมาก ก็มีกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ ที่ข้อจำกัดต่างๆ ถูกผู้สนับสนุนเสรีภาพในการพูดกล่าวหาว่ามีไว้เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง
รัฐบาลทหารที่เข้ายึดอำนาจในพม่าเมื่อเดือน ก.พ.2564 หลังจากโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี ได้พยายามอยู่หลายครั้งในการควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลายเดือนหลังจากยึดอำนาจ
การต่อต้านการยึดอำนาจอาศัยสื่อสังคมออนไลน์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟซบุ๊กเพื่อจัดการการประท้วงบนท้องถนน
ในขณะที่การต่อต้านอย่างสันติได้ทวีความรุนแรงเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ และสื่ออิสระอื่นๆ ถูกปิดหรือถูกบังคับให้ต้องลงใต้ดิน เนื้อหาออนไลน์ที่เกี่ยวกับและจากกองกำลังต่อต้านการปกครองของทหารก็ขยายตัวมากขึ้น แอปพลิเคชันเทเลแกรม และเครือข่ายโซเชียลต่างๆ ถูกใช้งานมากขึ้น
กฎหมายใหม่กำหนดให้มีการลงโทษ ที่รวมถึงการเตือน ปรับ ระงับการใช้งาน และขึ้นบัญชีดำ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ เพื่อป้องกัน ลบ และระงับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข่าวลือ ที่อาจก่อให้เกิดความเกลียดชัง ทำลายความสามัคคี หรือทำลายเสถียรภาพ นอกจากนี้ การโพสต์ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่อาจละเมิดกฎหมายที่มีอยู่ และยุยงให้เกิดความรุนแรงยังต้องได้รับโทษด้วย
กฎหมายยังกำหนดให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ต้องเก็บชื่อข้อมูลส่วนบุคคล และบันทึกอื่นๆ ของผู้ใช้งานไว้เป็นเวลาสูงสุด 3 ปี และต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่หากได้รับการร้องขอ
กฎหมายระบุว่าเจ้าหน้าที่สามารถสืบสวน ควบคุม ปิดกั้น และปิดบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หากจำเป็น เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะและความมั่นคงของรัฐ และจะดำเนินการกับพลเมืองพม่าในต่างประเทศที่ละเมิดบทบัญญัติใดๆ ของกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังระบุว่าผู้ที่สร้าง VPN หรือให้บริการ VPN โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวง จะต้องถูกจำคุกตั้งแต่ 1 เดือนถึง 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1 ล้านจ๊าต ถึง 10 ล้านจ๊าต
อุปกรณ์ใดๆ ก็ตามที่ใช้ฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายจะถูกยึด
ผู้ใช้บริการ VPN ฟรีส่วนใหญ่พบว่าไม่สามารถเชื่อมต่อได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.ปีที่แล้ว และมีรายงานว่าคนที่ถูกกองกำลังความมั่นคงเข้าตรวจสอบโทรศัพท์ และพบว่าติดตั้งแอปพลิเคชัน VPN ถูกปรับเงินและถูกควบคุมตัว
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและบริการอินเทอร์เน็ตของพม่า ได้แจ้งต่อสำนักข่าวว่าการเข้าถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เอ็กซ์ วอทส์แอป และบริการ VPN ถูกห้ามทั่วประเทศเมื่อปลายเดือน พ.ค. ตามคำสั่งของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร
กฎหมายฉบับใหม่ยังระบุว่า ผู้ใดที่สร้างระบบการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ จะถูกจำคุก 6 เดือนถึง 1 ปี หรือปรับเงินตั้งแต่ 5 ล้านจ๊าต ถึง 20 ล้านจ๊าต หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการพนันออนไลน์มักเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรในพม่าและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่บางครั้งมีความเชื่อมโยงกับศูนย์หลอกลวงออนไลน์ที่มีเหยื่อค้ามนุษย์เป็นเจ้าหน้าที่.