เอเอฟพี - หมอกควันหนาทึบปกคลุมกรุงฮานอยวันนี้ (3) บดบังอาคารสิ่งปลูกสร้างและทำให้ประชากรกว่า 9 ล้านคนในเมืองหลวงของเวียดนามต้องหายใจติดขัดเพราะอากาศเป็นพิษ ขณะที่กรุงฮานอยติดอันดับเมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก
ทางการเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากและจำกัดเวลาอยู่กลางแจ้ง แต่ผู้ที่เดินทางเป็นประจำในเมืองกล่าวกับเอเอฟพีว่า พวกเขาต้องดิ้นรนหายใจท่ามกลางหมอกควันพิษ ที่ปัจจุบันกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของฤดูหนาวในเมือง
IQAir รายงานว่า ระดับมลพิษ PM2.5 ที่เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดมะเร็งและเล็กมากพอที่จะเข้าสู่กระแสเลือดผ่านปอด อยู่ที่ 227 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยสูงสุดต่อวันตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกถึง 15 เท่า
กรุงฮานอยติดอันดับเมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของบริษัทตรวจสอบของสวิสในช่วงเช้า
เมืองหลวงของฮานอยเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองหลวงที่มีมลพิษสูงสุด 10 อันดับแรกของโลกโดย IQAir ในปี 2566
พนักงานรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีว่า การที่เธอต้องดิ้นรนหายใจท่ามกลางหมอกควันพิษขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ทำให้เธอต้องเปลี่ยนไปใช้รถประจำทางและแท็กซี่แทนแม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นก็ตาม
“คุณภาพอากาศแย่มากจนฉันไม่สามารถหายใจได้สะดวกในที่โล่ง ฉันต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา” พนักงานออฟฟิศ กล่าว
องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลายประการมีความเกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศ รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และมะเร็งปอด
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มลพิษในกรุงฮานอยเป็นผลจากการก่อสร้างอย่างแพร่หลาย รวมถึงการปล่อยมลพิษจากรถจักรยานยนต์และรถยนต์จำนวนมหาศาลที่วิ่งไปมาในเมืองหลวงทุกวัน
การปล่อยคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทางตอนเหนือ และการเผาทางการเกษตรทำให้ปัญหาเลวร้ายลง
“แหล่งที่มาของการปล่อยมลพิษเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยทุกวัน” ฮวี เหวียน ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ กล่าว
เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน สารมลพิษดูเหมือนจะถูกขังอยู่ในกรงกระจกขนาดใหญ่ในชั้นบรรยากาศที่ไม่สามารถหนีออกไปได้ และสะสมมากขึ้นทุกวัน” ฮวี เหวียน กล่าว
เขากล่าวว่า ชาวฮานอยจำเป็นต้องรอมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพรัอมฝน และการพาความร้อนรุนแรง เพื่อให้สถานการณ์มลพิษดีขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว ฝนจะยังไม่ตกในเมืองจนกว่าจะถึงเดือน มี.ค.