xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจสำมะโนประชากรพม่าพบประชากรลดลงเล็กน้อยจาก 10 ปีก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - รัฐบาลทหารพม่าประกาศว่าผลการสำรวจสำมะโนประชากรที่จัดทำขึ้นในเดือนต.ค. ที่ผ่านมา พบว่าประชากรของพม่าอยู่ที่ประมาณ 51.3 ล้านคน ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากการนับทั่วประเทศอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดเมื่อ 10 ปีก่อน ที่อยู่ที่ประมาณ 51.5 ล้านคน

รายงานที่ออกโดยกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากร ไม่ได้อธิบายโดยตรงถึงการลดลงดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดดำเนินการได้สำเร็จไม่ถึงครึ่งของ 330 เมืองของประเทศ เนื่องจากความขัดแย้งทางอาวุธที่ทวีความรุนแรงขึ้นและข้อจำกัดต่างๆ นับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในปี 2564

สถานีโทรทัศน์ MRTV รายงานว่าจะมีการสอบสวนสาเหตุของการลดลงของประชากรสำหรับรายงานหลักที่จะเผยแพร่ในปีนี้ ซึ่งกระทรวงได้ประมาณการไว้ก่อนที่จะมีการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดในเดือนต.ค. ว่าประชากรพม่าอยู่ที่ 56.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุว่าการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งใหม่ได้พิจารณารวมชาวโรฮิงญามากกว่า 700,000 คน ที่อพยพไปบังกลาเทศในปี 2560 เพื่อหลบหนีการปราบปรามรุนแรงต่อการก่อความไม่สงบที่ดำเนินการโดยกองกำลังความมั่นคงของพม่าด้วยหรือไม่

การยอมรับปัญหาในการดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากรนั้นเท่ากับเป็นการยอมรับว่ารัฐบาลทหารไม่สามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศได้ ซึ่งถูกท้าทายด้วยกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนประชาธิปไตยที่ต่อสู้กับการปกครองของทหาร

รายงานระบุว่าการนับจำนวนในพื้นที่พิพาทบางแห่งนั้นประมาณการด้วยเทคนิคการสำรวจระยะไกล

พม่าเผชิญกับความรุนแรงที่เริ่มขึ้นเมื่อกองทัพขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจีในเดือนก.พ. 2564 โดยอ้างว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งอย่างแพร่หลายในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2563 ข้อกล่าวหาที่ผู้สังเกตการณ์อิสระโต้แย้ง

การยึดอำนาจของกองทัพก่อให้เกิดการประท้วงอย่างสันติอย่างกว้างขวาง ที่ถูกปราบปรามด้วยกำลังอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การต่อต้านด้วยอาวุธที่ปัจจุบันกลายเป็นสงครามกลางเมือง กองทัพกำลังตั้งรับการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้เพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในหลายพื้นที่ของพม่า

ความขัดแย้งยังไม่ลุกลามมากนักในการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งก่อนๆ ในปี 2516 ปี 2526 และ 2557

นอกจากปัญหาด้านความปลอดภัยแล้ว การนับจำนวนอย่างแม่นยำยังทำได้ยาก เนื่องจากมีผู้พลัดถิ่นจำนวนมาก ซึ่งสหประชาชาติประเมินว่ามีมากกว่า 3 ล้านคน รวมถึงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารยังเรียกร้องประชาชนไม่ให้ร่วมมือกับการสำรวจสำมะโนประชากร และในหลายกรณี ยังรวมถึงการทำร้ายเจ้าหน้าที่สำรวจสำมะโนประชากรด้วย

รัฐบาลทหารกล่าวว่าข้อมูลสำมะโนประชากรจะถูกใช้ในการจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่สัญญาว่าจะจัดขึ้นในปี 2568 แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองก็ตาม

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้การยึดอำนาจของกองทัพเป็นเรื่องปกติผ่านหีบใส่บัตรลงคะแนน

เนื่องจากประเทศอยู่ในภาวะสงครามและเสรีภาพพลเมืองถูกจำกัดอย่างเข้มงวด นักวิจารณ์ระบุว่าพวกเขาไม่เห็นทางที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม

เมื่อเดือนก.ค. พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเป็นลำดับแรก แต่ยังไม่ได้ระบุวันที่สำหรับการลงคะแนนเสียง

รายงานการสำรวจสำมะโนประชากรระบุว่ามีประชากร 51,316,756 คน และรายงานยังระบุว่าไม่สามารถสำรวจสำมะโนประชากรได้ 58 เมือง และสำรวจสำเร็จเพียงบางส่วนใน 127 เมือง เนื่องจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ขณะที่ดำเนินการสำรวจได้สำเร็จ 145 เมือง จากทั้งหมด 330 เมือง

ตามข้อมูลของรายงาน พื้นที่ที่ไม่สามารถดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากรได้ คือเมืองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังเรียกร้องประชาธิปไตยในรัฐกะฉิ่น รัฐชาน รัฐชิน รัฐกะยา รัฐยะไข่ ภาคมะเกว ภาคมัณฑะเลย์ และภาคสะกาย

รายงานระบุว่าช่วงเวลาการรวบรวมข้อมูลได้ขยายออกไปในบางพื้นที่ตั้งแต่เดือนต.ค. จนกระทั่งสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนธ.ค. เนื่องจากความท้าทายในการขนส่งและความกังวลด้านความปลอดภัย

รายงานระบุว่าการเผยแพร่รายงานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลต่อการพัฒนาประเทศ การสร้างความปรองดอง และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ครอบคลุม ที่เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างกว้างขวาง.
กำลังโหลดความคิดเห็น