เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เวียดนามมากกว่า 10 คน ถูกนำตัวขึ้นศาลในกรุงฮานอยวันนี้ (24) ในข้อกล่าวหาทุจริตจากเที่ยวบินรับคนกลับประเทศระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหตุอื้อฉาวที่ทำให้มีผู้ถูกจำคุก 54 คนเมื่อปีก่อน
คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการทุจริตครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้ประธานาธิบดีและรองนายกรัฐมนตรี 2 คน ต้องหลุดจากตำแหน่งในประเทศที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมักได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ
เมื่อปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และนักธุรกิจ 54 คน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับ เสนอ หรือทำหน้าที่เป็นคนกลางในการติดสินบน ที่สื่อของทางการระบุว่ามีมูลค่ารวม 9.5 ล้านดอลลาร์
คนเหล่านั้นยังรวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ 4 คน ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ในบรรดาเจ้าหน้าที่ 17 คน ที่ต้องขึ้นศาลในวันนี้ (24) จากข้อกล่าวหารับสินบน ใช้อำนาจในทางมิชอบ และปิดบังอาชญากรนั้น มีเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมและเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด รวมถึงพนักงานบริษัทท่องเที่ยวด้วย
อดีตเจ้าหน้าที่ของ จ.ท้ายเหวียน ทางภาคเหนือ กล่าวต่อศาลว่าเขารับสินบนและค่าคอมมิชชันราว 300,000 ดอลลาร์ สำหรับการจัดเตรียมสถานที่กักกันโรค
“ผมทำเพราะเห็นโอกาสที่จะหารายได้และหาประโยชน์ให้ตัวเอง” อดีตเจ้าหน้าที่กล่าวต่อศาล ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์เวียดนามลอว์
การพิจารณาคดีคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
เมื่อถึงจุดสูงสุดของการระบาดในต้นปี 2563 ที่เวียดนามปิดพรมแดนกับทุกคนยกเว้นพลเมืองที่เดินทางกลับประเทศ จำเลยถูกกล่าวหาว่าให้หรือรับสินบนเพื่อช่วยให้ผู้คนได้ที่นั่งบนเที่ยวบินเดินทางกลับประเทศ
ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้เดินทางกลับต้องพบกับขั้นตอนการเข้าประเทศที่ซับซ้อน เที่ยวบินราคาแพง และค่าใช้จ่ายในการกักกันโรค
เมื่อปีที่ผ่านมา หญิงชาวฮานอยรายหนึ่งกล่าวว่าเธอใช้เงินไปกว่า 10,000 ดอลลาร์ เพื่อให้ลูกสาววัยรุ่นของเธอเดินทางกลับเวียดนามจากโรงเรียนประจำในยุโรปในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก
ข้อกล่าวหาการทุจริตรับสินบนดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปราบปรามการทุจริตที่ได้เปิดโปงข้อตกลงจำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเวียดนาม
เมื่อปีที่ผ่านมา สมัชชาแห่งชาติได้ปลดอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่าม บิ่ง มิง และหวู ดึ๊ก ซาม ที่กำกับดูแลการตอบโต้การระบาดของโควิด-19 ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
การปราบปรามดังกล่าวยังทำให้ประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุ้ก พ้นจากตำแหน่ง หลังจากเขารับผิดชอบทางการเมืองต่อความบกพร่องของเจ้าหน้าที่.