เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในพม่ากล่าวว่าพวกเขาสามารถยึดฐานปฏิบัติการหลักของกลุ่มกลับคืนจากกองทัพพม่าได้ หลังถูกบังคับให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าวเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน
ผู้นำสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า กองกำลังของ KNU ได้เข้ายึดฐานมาเนอปลอ (Manerplaw) บริเวณชายแดนไทยได้สำเร็จ หลังสู้รบมานานหลายวัน
“กองกำลังทหารของพม่ายังคงต้องการยึดฐานดังกล่าวกลับคืน พวกเขาใช้โดรนและพยายามทิ้งระเบิดใส่กองกำลังของเรา แต่กองกำลังของเรายึดฐานได้แล้ว” ผู้นำ KNU ระบุ
เป็นเวลาหลายปีที่ฐานมาเนอปลอเป็นฐานปฏิบัติการหลักของการต่อสู้ด้วยอาวุธยาวนานหลายทศวรรษของ KNU เพื่อเรียกร้องสิทธิให้ชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยง และเป็นที่อยู่ของนักการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลทหารของพม่าในขณะนั้น
หลังจากการแตกแยกภายในกลุ่ม KNU ที่ส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน รัฐบาลทหารและกลุ่มชาวพุทธที่แยกตัวออกมา ได้เข้ายึดฐานในปี 2538 ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหลบหนีเข้าไปในฝั่งไทย
หลังจากการล่มสลายของมาเนอปลอ รัฐบาลทหารได้เปลี่ยนชื่อพื้นที่เป็นรัฐกะเหรี่ยง และให้องค์กรกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ ที่เป็นกลุ่มติดอาวุธพันธมิตร เป็นผู้รับผิดชอบดูแล
KNU ปะทะกับรัฐบาลทหารชุดปัจจุบันหลายครั้งหลังจากการรัฐประหารครั้งล่าสุดในปี 2564 และได้ให้ที่พักพิงและการฝึกอบรมแก่ฝ่ายตรงข้ามอื่นๆ ที่ต้องการโค่นล้มกองทัพ
“มาเนอปลอเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์สำหรับชาวกะเหรี่ยง” ผู้นำ KNU กล่าว และระบุว่ามีทหารของพวกเขาถูกฝังอยู่ที่นั่นประมาณ 100 นาย
“เราจำเป็นต้องสร้างพื้นที่นี้ขึ้นมาใหม่เพื่อแสดงความเคารพต่อพวกเขาทั้งหมด”
พม่าอยู่ในความสับสนวุ่นวายตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในปี 2564 ที่จุดชนวนให้เกิดการสู้รบครั้งใหม่กับกลุ่มติดอาวุธ เช่น KNU และก่อให้เกิดกองกำลังพิทักษ์ประชาชนที่สนับสนุนประชาธิปไตยหลายสิบกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ต่อสู้กับกองทัพอยู่ทั่วประเทศ สหประชาชาติระบุว่ามีผู้พลัดถิ่นกว่า 3 ล้านคนจากการสู้รบ.