เอเอฟพี - เรือรบสหรัฐฯ เข้าเทียบท่าในกัมพูชาวันนี้ (16) โดยอยู่ห่างจากฐานทัพเรือที่จีนปรับปรุงใหม่เพียงไม่กี่กิโลเมตร นับเป็นการเข้าเทียบท่าครั้งแรกของเรือรบสหรัฐฯ ในประเทศที่เป็นหนึ่งในพันธมิตรระดับภูมิภาคที่ใกล้ชิดที่สุดของปักกิ่งในรอบ 8 ปี
ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับพนมเปญย่ำแย่ลงเป็นเวลาหลายปี และจีนได้ทุ่มเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การนำของฮุนเซน
ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีระบุว่า เห็นเจ้าหน้าที่กองทัพเรือกัมพูชาให้การต้อนรับการมาถึงของเรือยูเอสเอส ซาวันนาห์ ที่เมืองท่าสีหนุวิลล์ วันนี้ (16)
เดเนียล เอ สเลดซ์ ผู้บังคับการเรือ กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่ได้กลับมา กลับมาปรากฏตัวที่นี่หลังจากผ่านไป 8 ปี” และเสริมว่าลูกเรือของเขารู้สึกยินดีมากที่ได้รับการต้อนรับจากกัมพูชา
กระทรวงกลาโหมของกัมพูชาระบุเมื่อวันศุกร์ว่าการเยือนกัมพูชาเป็นเวลา 5 วัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างและขยายมิตรภาพ และส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี
นับตั้งแต่ปี 2565 จีนให้เงินทุนสำหรับการปรับปรุงฐานทัพเรือเรียม ที่อยู่ห่างจากเมืองสีหนุวิลล์ประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งเดิมนั้นสร้างขึ้นด้วยเงินทุนของสหรัฐฯ บางส่วน
วอชิงตันกล่าวว่าฐานทัพเรือเรียมอาจทำให้ปักกิ่งมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์สำคัญในอ่าวไทย ใกล้กับทะเลจีนใต้ ที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งจีนอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำดังกล่าวเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ ผู้นำกัมพูชาได้ปฏิเสธข้อกังวลดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยระบุว่าฐานทัพเรือเรียมไม่ได้ถูกต่างชาติใช้งาน
เรือรบจีนเข้าจอดเทียบท่าที่ท่าเรือยาว 363 เมตรครั้งแรกในเดือน ธ.ค.2566 และเรืออีก 2 ลำ จอดที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ในเดือน พ.ค. ที่เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างปักกิ่งกับกัมพูชา
ในช่วงต้นปี 2560 กัมพูชายกเลิกการซ้อมรบร่วมที่คล้ายกันกับกองทัพสหรัฐฯ ที่จัดขึ้นก่อนหน้านั้นมาโดยตลอด
กระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2550 เรือรบสหรัฐฯ 27 ลำ ได้เข้าเทียบท่าที่กัมพูชา แต่การเยือนกัมพูชาของเรือยูเอสเอส ซาวันนาห์ พร้อมลูกเรือ 103 นาย ถือเป็นการเทียบท่าครั้งแรกในรอบ 8 ปี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเรือยูเอสเอส ซาวันนาห์ จะเข้าพบผู้บัญชาการฐานทัพเรือเรียม
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางเยือนกัมพูชาในเดือน มิ.ย. เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับจีน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรัก สุคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาและบริดเจ็ตต์ วอล์กเกอร์ จากสถานทูตสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสองประเทศ.