เอเอฟพี - สื่อเวียดนามรายงานว่า อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงระดับจังหวัดรับสินบนมูลค่า 300,000 ดอลลาร์ เพื่อเปิดทางให้บริษัทเอกชนเข้าขุดทรายอย่างผิดกฎหมายในเขตพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
การขุดทรายที่ส่วนใหญ่นำไปใช้ในการก่อสร้าง กำลังขยายตัวในเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้ทรัพยากรมากเกินไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจเสนอตั้งข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบกับ เหวียน แถ่ง บิ่ง อดีตประธานคณะกรรมการประชาชน จ.อานซยาง (An Giang) ในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ตามการระบุของหนังสือพิมพ์ความมั่นคงสาธารณะ ที่เป็นกระบอกเสียงของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ทั้งนี้ เขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเป็นพื้นที่หลักของการขุดทราย
เหวียน แถ่ง บิ่ง อายุ 59 ปี และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกใบอนุญาตขุดทรายให้บริษัท Trung Hau 68 แลกกับผลประโยชน์ทางวัตถุ แม้บริษัทจะไม่ผ่านคุณสมบัติก็ตาม สำนักข่าว VNExpress รายงานอ้างคำกล่าวของตำรวจ
ระหว่างเดือน ธ.ค.2564 ถึงเดือน ก.ค.2566 บริษัทดังกล่าวได้ขุดทรายไปกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร และส่งทรายมากกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ไปยังโครงการถนนท้องถิ่น และขายส่วนที่เหลือไปในราคาประมาณ 11.5 ล้านดอลลาร์ หนังสือพิมพ์ความมั่นคงสาธารณะรายงาน
ในรายงานปี 2566 จากกลุ่มอนุรักษ์ WWF ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการขุดทรายเพื่อป้อนให้การก่อสร้างของเวียดนาม กำลังทำให้ทรัพยากรหมดลงอย่างรวดเร็ว พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่เป็นอู่ข้าวของประเทศ ซึ่งอาจหมดลงภายในเวลาเพียงทศวรรษเดียว
เมื่อเหลือทรายน้อยลง แม่น้ำจะไหลเร็วขึ้นและกระทบตลิ่งด้วยความเร็วที่มากขึ้น ส่งผลให้การกัดเซาะเกิดเร็วขึ้น
หน่วยงานด้านการป้องกันและควบคุมภัยธรรมชาติของเวียดนามระบุว่า ประชาชนประมาณ 20,000 ครัวเรือน จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานเนื่องจากความเสี่ยงดังกล่าว แต่ WWF ระบุตัวเลขไว้สูงกว่านี้มาก โดยระบุว่าประชาชนราวครึ่งล้านอาจเสียบ้านเรือนของตนเอง
เหวียน แถ่ง บิ่ง ได้จ่ายเงินคืนให้แก่ศาลไปแล้ว 300,000 ดอลลาร์ ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์ความมั่นคงสาธารณะ และตำรวจแนะนำให้จำเลยรวม 44 คน ถูกดำเนินคดีในการสอบสวนนี้.