เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในพม่าได้กล่าวอ้างว่ากลุ่มสามารถควบคุมพื้นที่สำคัญตามแนวชายแดนบังกลาเทศไว้ได้ทั้งหมดแล้ว ส่งผลให้กองทัพที่ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอยู่ทั่วประเทศเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น
การสู้รบเกิดขึ้นทั่วรัฐยะไข่ พื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ ตั้งแต่กองทัพอาระกัน (AA) โจมตีกองกำลังรักษาความมั่นคงในเดือน พ.ย. ปีก่อน ที่ส่งผลให้ข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 สิ้นสุดลง
สมาชิกของกองทัพอาระกันได้ยึดครองพื้นที่จำนวนมากในรัฐที่เป็นที่ตั้งของโครงการท่าเรือที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนและอินเดีย และเกือบตัดขาดเมืองสิตตะเว ที่เป็นเมืองเอกของรัฐ
คำแถลงของกองทัพอาระกันระบุว่า กลุ่มได้เข้าควบคุมพื้นที่ทั้งหมดของเมืองหม่องดอได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ โดยเมืองนี้มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 110,000 คน ตามข้อมูลของการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุด
ฐานสุดท้ายของกองทัพใกล้เมืองหม่องดอแตกพ่ายในเช้าวันอาทิตย์หลังสู้รบกันนานเกือบ 2 เดือน กองทัพอาระกันระบุ และเสริมว่ากลุ่มจับกุมทหารของรัฐบาลได้จำนวนหนึ่งรวมถึงผู้บัญชาการฐานด้วย
คลิปวิดีโอที่กองทัพอาระกันนำออกเผยแพร่เผยให้เห็นชายที่ดูเหมือนเป็นกองกำลังความมั่นคงพม่าที่ยอมจำนนกำลังเดินออกจากอาคารที่ได้รับความเสียหาย
เอเอฟพีไม่สามารถยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้อย่างอิสระ และได้ติดต่อโฆษกของกองทัพอาระกันเพื่อขอความคิดเห็น
เมืองหม่องดอตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำนาฟ ที่แยกพม่าออกจากบังกลาเทศ และเป็นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาจำนวนมาก
รัฐบาลทหารไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการสู้รบที่หม่องดอ
ในเดือน พ.ค. กองทัพอาระกันกล่าวว่าได้ยึดเมืองบุติด่อง ที่อยู่ห่างจากเมืองหม่องดอ 25 กิโลเมตร
กลุ่มโรฮิงญาพลัดถิ่นหลายกลุ่มกล่าวหาว่ากองทัพอาระกันบังคับให้โรฮิงญาหลบหนี และจากนั้นก็เข้าปล้นและเผาบ้านเรือนของพวกเขา คำกล่าวอ้างที่กองทัพอาระกันระบุว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
เมื่อเดือนที่ผ่านมา สหประชาชาติเตือนว่ารัฐยะไข่กำลังมุ่งสู่ภาวะอดอยาก ด้วยการสู้รบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อการค้าและการผลิตทางการเกษตร
“เศรษฐกิจของรัฐยะไข่หยุดทำงาน” รายงานจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติระบุ และคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะอดอยากในกลางปี 2568 หากระดับของความไม่มั่นคงทางอาหารในปัจจุบันไม่ได้รับการแก้ไข.