รอยเตอร์ - ข้อมูลของกระทรวงการคลังกัมพูชาในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 เผยให้เห็นว่า จีนไม่ได้อนุมัติเงินกู้ใดๆ ให้กัมพูชาในปีนี้ แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เงินทุนที่ลดลงดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณว่าจีนมีความระมัดระวังมากขึ้นในการลงทุนในกัมพูชา หลังจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ยังไม่ประสบความสำเร็จหลายโครงการ
ข้อมูลของรัฐบาลกัมพูชาระบุว่า หนี้ของรัฐบาลกัมพูชามีมูลค่าอยู่ที่ 11,600 ล้านดอลลาร์ โดยจีนมีสัดส่วนหนี้มากถึง 1 ใน 3
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการลงนามเงินกู้ใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค. จนถึงเดือน ก.ย.ของปีนี้ ซึ่งลดลงเกือบ 212 ล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
แต่ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการปล่อยกู้โดยรวมแก่กัมพูชา เนื่องจากเจ้าหนี้รายอื่นได้ปล่อยกู้เป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับการปล่อยกู้ให้กัมพูชาในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว
ธนาคารโลกได้ลงนามเงินกู้มูลค่า 564 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ทำให้ธนาคารโลกกลายเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในปี 2567 รองลงมาคือญี่ปุ่น ที่ 262 ล้านดอลลาร์
การระงับการให้ทุนของจีนเกิดขึ้นหลังจากลงทุนในกัมพูชาอย่างหนักมานานหลายปี
โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศของจีนไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเงินกู้แต่กล่าวว่า “จีนและกัมพูชาเป็นมิตรที่แน่นแฟ้น และยังคงเสริมสร้างความร่วมมือกับกัมพูชาและสนับสนุนกัมพูชาในการส่งเสริมการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน”
โฆษกของกระทรวการคลังกัมพูชาไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์
จีนเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในบรรดาประเทศพันธิมตรเมื่อปีที่แล้ว ด้วยเงินกู้มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ตลอดทั้งปี มีเพียงธนาคารโลกเท่านั้นที่ให้เงินกู้มากกว่าเมื่อปีก่อน ด้วยเงินกู้ลงนามมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลทางการ
ในปี 2565 ปักกิ่งยังครองอันดับหนึ่งของรายชื่อผู้ให้กู้โดยรวม ด้วยเงินกู้ลงนามมูลค่า 567 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือญี่ปุ่น และธนาคารพัฒนาเอเชีย.