รอยเตอร์ - ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของพม่าจะหดตัว 1% ในปีงบประมาณปัจจุบัน โดยปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจลดอย่างมาก เนื่องจากเหตุอุทกภัยร้ายแรงซ้ำเติมความท้าทายที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่
เมื่อเดือน มิ.ย. ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจพม่าจะขยายตัวที่ 1% ในช่วงปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2568 แต่เตือนว่าความยากจนจะเพิ่มขึ้นและความรุนแรงจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
ประเทศที่มีประชากร 55 ล้านคนแห่งนี้อยู่ในความโกลาหลวุ่นวายตั้งแต่ปี 2564 เมื่อกองทัพเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง จนก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ และพัฒนาไปเป็นการก่อกบฏติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร
การรัฐประหารดังกล่าวทำให้การปฏิรูปประชาธิปไตยและเศรษฐกิจที่ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีของพม่าต้องยุติลงอย่างกะทันหัน โดยนักลงทุนตะวันตกถอนตัวออกจากประเทศ และการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทำให้การค้าหยุดชะงัก
“ระดับและความรุนแรงของการสู้รบยังคงสูง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ส่งผลกระทบต่อการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ” ธนาคารโลกระบุในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ (11)
ธนาคารโลกกล่าวว่า หลายภาคส่วนของเศรษฐกิจกำลังดิ้นรน และการผลิตทางการเกษตรมีแนวโน้มที่จะลดลงที่เป็นผลจากพายุไต้ฝุ่นยางิ ที่พัดถล่มในเดือน ก.ย. และทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง
“ภาคการผลิตและการบริการคาดว่าจะหดตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ สินค้านำเข้า และไฟฟ้า ความต้องการภายในประเทศที่อ่อนแอ และผลกระทบต่อเนื่องของความขัดแย้งและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ” ธนาคารโลกระบุ
โฆษกของรัฐบาลทหารไม่ได้ตอบรับการติดต่อจากรอยเตอร์เพื่อขอความคิดเห็น
ธนาคารโลกระบุว่า ประชากรของพม่าราว 25% กำลังเผชิญกับปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารอย่างรุนแรงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและการขาดแคลนอุปทานที่เลวร้ายลงจากสงคราม
รายงานระบุว่าอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะคงตัวอยู่ที่ 26% ในแง่ของค่าเฉลี่ยรายปีในปีงบประมาณนี้ ที่ต่ำกว่า 27.5% ในปีงบประมาณ 2566-2567 เล็กน้อย
สงครามกลางเมืองที่ขยายตัว ที่เป็นการร่วมมือกันของกลุ่มติดอาวุธใหม่และกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์เอาชนะกองทัพที่มีอาวุธครบมือได้ ได้แผ่ลามไปยังเมืองต่างๆ ของประเทศมากกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 330 เมืองของประเทศ และทำให้ประชาชน 3.5 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน รายงานระบุ
“แม้จะไม่เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นอีก แต่การเติบโตคาดว่าจะยังคงชะลอตัวในปีถัดไป” ธนาคารโลกระบุ.