เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในพม่าประหารชีวิตนักโทษชาย 6 คน หลังพิจารณาคดีต่อหน้าสาธารณะในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มใกล้ชายแดนจีน สื่อที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธรายงานวันนี้ (6)
สำนักข่าว ‘The Kokang’ รายงานว่า กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่า (MNDAA) ได้พิจารณาคดีกับผู้ต้องหา 14 คน ในความผิดต่างๆ รวมทั้งการลักพาตัว การขู่กรรโชก และการฆาตกรรม
ภาพถ่ายแสดงให้เห็นผู้ต้องหาที่อยู่ในชุดวอร์มสีน้ำเงินถูกควบคุมตัวต่อหน้าฝูงชนราว 1,000 คน ในเมืองเล่าก์ก่าย ห่างจากมณฑลยูนนานของจีนไปประมาณ 5 กิโลเมตร ผู้ต้องหาทั้งหมดมีป้ายแขวนคอที่เขียนคำว่า ‘อาชญากร’ เป็นภาษาจีน
ชาย 6 คน ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานปล้นทรัพย์ ลักพาตัว และฆาตกรรมด้วยการแสร้งว่าเป็นทหารของ MNDAA ถูกประหารชีวิตในพื้นที่ดังกล่าว สำนักข่าว The Kokang ระบุ แต่รายงานไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินโทษกับผู้ต้องหาอีก 8 คน
กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มของพม่าใช้ระบบกฎหมายคู่ขนานในดินแดนที่พวกเขายึดครองตามแนวชายแดนของประเทศ
ในเดือน เม.ย. MNDAA ประหารชีวิตสมาชิกกองกำลังของกลุ่ม 3 คน ฐานฆาตกรรมและขายอาวุธและกระสุนปืนที่ขโมยมาจากกลุ่ม
กองทัพสหรัฐว้า กลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งที่มีดินแดนตามแนวชายแดนจีน ได้ตัดสินประหารชีวิตชายคนหนึ่งในการพิจารณาคดีต่อสาธารณชนในเดือน ต.ค. ในข้อหาฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 8 ขวบ
ในปี 2565 รัฐบาลทหารประหารชีวิตคน 4 คน ที่เป็นการประหารชีวิตโดยศาลครั้งแรกของประเทศในรอบหลายทศวรรษ
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจจากการรัฐประหารในปี 2564 โดยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชนได้ต่อสู้กับกองทัพในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
MNDAA มีกองกำลังประมาณ 8,000 คน เข้ายึดเมืองเล่าก์ก่ายในเดือน ม.ค. หลังกองกำลังของรัฐบาลทหารประมาณ 2,000 นาย ยอมจำนนหลังจากสู้รบกันมานานหลายสัปดาห์ ที่นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของรัฐบาลทหาร
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ MNDAA กล่าวว่ากลุ่มพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทหารโดยมีจีนเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เพื่อยุติการสู้รบที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี
จีนเป็นพันธมิตรหลักและผู้จัดหาอาวุธให้รัฐบาลทหาร แต่ยังคงรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ยึดครองดินแดนใกล้ชายแดน
จีนเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ยุติการสู้รบในรัฐชาน ที่เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ของปักกิ่ง.