MGR Online - จีนย้ำจุดยืนต้องการให้เกิดสันติภาพในพม่า โดยเฉพาะความขัดแย้งในภาคเหนือของรัฐฉานที่ต้องใช้วิธีเจรจา ยืนยันพร้อมเดินหน้าสร้างทางรถไฟเชื่อมเจ้าก์ผิ่ว-คุนหมิงทันทีที่พม่าสงบ
วันที่ 2 ธันวาคม 2567 ดร.เจิ้ง จื้อหง (郑志宏) อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานทูตจีนประจำพม่า ได้กล่าวบนเวทีพบปะสื่อมวลชนพม่าและจีน ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมวินด์แฮม แกรนด์ ในกรุงย่างกุ้งว่า จีนยังคงเตรียมการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างเมืองเจ้าก์ผิ่ว รัฐยะไข่ ขึ้นไปถึงนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน เพียงแต่ต้องรอให้สถานการณ์ความขัดแย้งในพม่าสงบลงเสียก่อน
เขากล่าวว่า ทางรถไฟสายนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" และโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า หากทางรถไฟ "เจ้าก์ผิ่ว-คุนหมิง" สร้างเสร็จ จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับมาตรฐานการดำรงชีพของชาวพม่า โดยในการพบกันของนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียง กับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างเห็นพ้องกันว่าจะผลักดันให้ระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและมีคุณภาพ
ดร.เจิ้ง กล่าวว่า จีนหวังให้สถานการณ์ในพม่ากลับมาสงบสุขได้ในเร็ววัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อโครงการพัฒนาต่างๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้าง
เขาเน้นย้ำว่า จุดยืนของจีนต่อความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในภาคเหนือของรัฐฉานนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยจีนต้องการให้มีการเจรจากันต่อระหว่างทัพพม่ากับกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ จากที่ก่อนหน้านี้ ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย เคยได้พบปะกันเจรจากันที่นครคุนหมิงไปแล้ว 5 ครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดสันติภาพ และการลงนามในสัญญาหยุดยิง
ดร.เจิ้ง ได้ปฏิเสธข่าวลือที่ถูกเผยแพร่อยู่บนหน้าสื่อฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหาร ถึงบทบาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยจากจีนที่เข้ามาทำธุรกิจอยู่ในพม่า โดยเขายืนยันว่าบริษัทเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายของพม่า และผ่านการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาลพม่าแล้ว ข่าวลือที่ปรากฏอยู่ในชุมชนออนไลน์พม่า จึงเป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับพม่า
เขายืนยันนโยบายของจีนที่ชัดเจนในการเป็นมิตรกับพม่า โครงการความร่วมมือในทุกด้านที่เกิดขึ้น ล้วนตั้งอยู่บนผลประโยชน์ร่วมของทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า และการลงทุนของจีนในพม่า เป็นการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพม่าให้ดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน สื่อและชุมชนออนไลน์ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหารหลายแห่ง ได้เผยแพร่บทวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยจากจีนที่เข้ามาทำธุรกิจอยู่ในพม่าว่าเป็นการนำทหารรับจ้างของจีนมาประจำการอยู่ในประเทศ ซึ่งถือเป็นการขัดต่อมาตรา 42(B) ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2008 ของพม่า ที่ห้ามไม่ให้มีการจัดวางกองกำลังติดอาวุธของต่างชาติอยู่ในดินแดนพม่า.