เอเอฟพี - สำหรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่หลบหนีความรุนแรงโหดร้ายในพม่า ข่าวเรื่องอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศกำลังพยายามขอหมายจับผู้นำรัฐบาลทหารถือเป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
“เรายินดีที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะออกหมายจับผู้บัญชาการทหารพม่า มิน อ่อง หล่าย ถือเป็นความสำเร็จสำหรับพวกเรา” ผู้นำประชาสังคมโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในฝั่งบังกลาเทศ กล่าว
ชนกลุ่มน้อยมุสลิมไร้รัฐและถูกกดขี่ข่มเหงราว 1 ล้านคน อาศัยอยู่ในค่ายบรรเทาทุกข์ของบังกลาเทศในเมืองค็อกซ์บาซาร์ หลังจากหลบหนีการปราบปรามและการสังหารในบ้านเกิดของพวกเขาในพม่า
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพในช่วงการปราบปรามโรฮิงญาเมื่อปี 2560 และปัจจุบันตกเป็นเป้าหมายของการสอบสวนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของสหประชาชาติ ได้ปฏิเสธการใช้คำว่าโรฮิงญาโดยระบุว่าเป็นจินตนาการ
ชาวโรฮิงญาต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติมานานหลายทศวรรษในพม่า ที่รัฐบาลพม่าจัดให้พวกเขาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศแม้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพม่ามานานแล้วก็ตาม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดของศาลอาญาระหว่างประเทศ คาริม ข่าน ได้ยื่นคำร้องต่อผู้พิพากษาศาลในกรุงเฮกเพื่อขอหมายจับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติต่อชาวโรฮิงญา
ครูของโรงเรียนชุมชนโรฮิงญากล่าวว่าเธอรู้สึกมีความสุข
“ชาวโรฮิงญากำลังเฝ้ารอสิ่งนี้ ฉันหวังว่าอาชญากรทุกคนจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลอาญาระหว่างประเทศตามกฎหมาย เพื่อดำเนินการให้พวกเขารับผิดชอบและลงโทษพวกเขา” ครูคนเดิมระบุ
นับเป็นครั้งแรกสำหรับการยื่นคำร้องเพื่อขอหมายจับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลพม่าที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดชาวโรฮิงญา
“การออกหมายจับเป็นข่าวดีสำหรับพวกเรา เขาเป็นผู้กระทำผิดคนสำคัญของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาเมื่อปี 2560” ผู้นำองค์กรสิทธิมนุษยชนในค็อกซ์บาซาร์ กล่าว
แต่เขากล่าวเสริมว่าความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นในบ้านเกิดของเขา รัฐยะไข่ ที่เกิดจากสงครามระหว่างกองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพพม่า และว่าโรฮิงญายังไม่ปลอดภัยในบ้านเกิด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ
นักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมอีกรายหนึ่งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการส่งตัวโรฮิงญากลับพม่าอย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี.