MGR Online - กองทัพว้าใต้นำทหารเกณฑ์ใหม่ทั้งชาย-หญิงกว่า 3,000 นาย เดินสวนสนามและปฏิญาณตน ก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่วันแรก ทุกครอบครัวที่มาส่งลูกหลานต่างมีแต่ความโศกเศร้า อาลัย บนใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา!
ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพจข่าว Wa News Land ได้เผยแพร่คลิปความยาว 8.37 นาที เนื้อหาในคลิปเป็นพิธีสวนสนามและปฏิญาณตนของทหารใหม่สังกัดกองทัพว้าใต้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ณ ค่ายทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดเมืองสาต รัฐฉานตะวันออก มีทหารใหม่ที่เพิ่งถูกเกณฑ์เข้ากองทัพทั้งชายและหญิงกว่า 3,000 นาย ร่วมเดินสวนสนามครั้งนี้
ในพิธี นอกจากมีนายทหารระดับบังคับบัญชาของกองทัพว้าใต้ที่ขึ้นกล่าวให้โอวาทแล้ว ยังมีตัวแทนชมรมสตรีว้า ผู้นำชุมชน หัวหน้าหมู่บ้าน รวมถึงครอบครัวของทหารใหม่ทุกนายมาร่วมชมการเดินสวนสนาม
ปรากฏว่าในตอนท้ายของคลิป (ประมาณนาทีที่ 7) ซึ่งเป็นภาพช่วงที่ครอบครัวทหารใหม่ยืนร่ำลา รอส่งตัวลูกหลานที่เป็นทหารใหม่เริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพวันแรก บรรยากาศการร่ำลาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า อาลัย ทั้งทหารใหม่และครอบครัว ไม่ว่าเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน หรือคู่รัก ต่างยืนกอดกันร้องไห้ ไม่มีบรรยากาศของความฮึกเหิมปรากฏให้เห็น
กองทัพว้าใต้ หรือเขตทหาร 171 กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) เป็นพื้นที่ชายแดนรัฐฉานที่ติดกับประเทศไทย ซึ่งกองทัพสหรัฐว้าได้ขยายมาครอบครองไว้ตั้งแต่ประมาณปี 2538 ปัจจุบันมีทหารประจำการอยู่ประมาณ 15,000 นาย แบ่งโครงสร้างเป็น 6 กองพล ได้แก่ กองพลที่ 772 775 778 518 248 และ 171 แต่ละกองพลมี 4 กองพัน มีกำลังพลรวมประมาณ 2,000 นาย
กองบัญชาการใหญ่ของกองทัพว้าใต้อยู่ที่อำเภอเมืองสาต จังหวัดเมืองสาต พื้นที่ปฏิบัติการครอบคลุมตลอดแนวชายแดนรัฐฉานฝั่งตรงข้ามกับอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ฐานของกองทัพว้าใต้ที่ตั้งอยู่บนดอยหัวม้า บริเวณคาบเกี่ยวกับอำเภอปาย ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการปักปันเขตแดนกันระหว่างไทยกับพม่า เป็นฐานที่กำลังมีข้อถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ว่า ได้ล้ำเข้ามาอยู่ในดินแดนของประเทศไทยหรือไม่ โดยฐานแห่งนี้ตั้งประจันหน้าอยู่กับฐานของทหารไทใหญ่ของกองทัพสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS/SSA) บนดอยไตแลง
นอกจากนี้ ทหารจากกองทัพว้าใต้ยังได้ถูกส่งขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่นของรัฐฉานด้วย โดยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 กองทัพสหรัฐว้าได้ส่งทหารไม่ต่ำกว่า 2,000 นาย เคลื่อนพลข้ามแม่น้ำสาละวิน จากฝั่งตะวันออกไปปักหลักอยู่ที่เมืองต้างย่านทางฝั่งตะวันตก ห่างจากเมืองล่าเสี้ยว เมืองหลวงของรัฐฉานเหนือ ที่กำลังมีการสู้รับกันอยู่ระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพโกก้าง (MNDAA) ประมาณ 80 กิโลเมตร
ในจำนวนทหารว้าทั้ง 2,000 นาย เป็นทหารจากกองทัพว้าใต้ 1,500 นาย อีก 500 นาย มาจากกองทัพว้าเหนือ ซึ่งมีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ที่เมืองป๋างซาง ถัดจากนั้น 2 สัปดาห์ ในวันที่ 27 กรกฎาคม ส่วนหนึ่งของทหารชุดนี้ก็ได้เคลื่อนกำลังเข้าไปประจำการอยู่ในเมืองล่าเสี้ยว
วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา กองบัญชาการกองทัพว้าใต้ ได้มีประกาศเรียกตัวผู้ที่มีเชื้อสายว้า ซึ่งได้ออกไปทำงานอยู่ในต่างประเทศ ทั้งจากลาวและไทย รวมถึงผู้ที่ไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย และผู้ที่เคยหนีการเกณฑ์ทหาร ให้กลับไปรายงานตัวต่อหน่วยงานความมั่นคงในภูมิลำเนาของแต่ละคน เพื่อเข้ารับการเกณฑ์เป็นทหารใหม่ภายในวันที่ 7 กันยายน หากฝ่าฝืนหรือกลับมารายงานตัวไม่ตรงตามกำหนด จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายของกองทัพสหรัฐว้า
ในหนังสือให้เหตุผลการเรียกเกณฑ์ทหารใหม่รอบนี้ว่า เนื่องจากสถานการณ์ในรัฐฉานไม่สงบ มีการสู้รบของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ กองทัพสหรัฐว้าจึงต้องเตรียมความพร้อมโดยเกณฑ์คนหนุ่มสาวเข้ามาเป็นทหารใหม่เพื่อรับใช้กองทัพ โดยตั้งเป้าเกณฑ์ทหารใหม่รอบนี้ จำนวน 4,000 นาย
ตามกฎหมายของกองทัพสหรัฐว้า เมื่อมีการเรียกเกณฑ์ทหารใหม่แต่ละครั้ง ทุกครัวเรือนที่อยู่ในเขตปกครองตนเองชนชาติว้า ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ต้องส่งบุตรหลานมาเป็นทหารใหม่ อย่างน้อยครอบครัวละ 1 คน ทหารใหม่ที่เป็นชายกำหนดเวลาในการรับใช้กองทัพ 9 ปี ส่วนทหารใหม่เพศหญิง กำหนดให้ต้องรับใช้กองทัพเป็นเวลา 5 ปี.
