เอเอฟพี - รัฐบาลเวียดนามระบุประเทศต้องการเริ่มต้นโครงการพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากยกเลิกโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ 2 โครงการในปี 2559
เวียดนามประเทศที่มีประชากร 100 ล้านคนและกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาถ่านหินและพลังงานน้ำเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
แม้จะต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ก็มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ที่ได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม ที่ประเทศที่ร่ำรวยกว่าจะช่วยประเทศที่กำลังพัฒนาเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสะอาดให้ได้รวดเร็วขึ้น
เมื่อวันอังคาร (12) นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง กล่าวต่อสมัชชาแห่งชาติในกรุงฮานอยว่ารัฐบาลของเขาได้ขอให้ทางการเริ่มโครงการพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง
เขากล่าวว่าเป็นการรับประกันพลังงานที่เพียงพอต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่รวดเร็วและยั่งยืนในระยะยาว
“หากเราตั้งเป้าที่จะสร้างสถานการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยตัวเลขสองหลัก ความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า” ผู้นำเวียดนามระบุ
ในปลายปี 2559 เวียดนามยกเลิกแผนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยอ้างเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมและการเงิน ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสองแห่งถูกระงับหลังจากต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าที่ 18,000 ล้านดอลลาร์
โรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งใน จ.นีงทวน ทางภาคกลางของประเทศ มีกำลังการผลิตรวม 4,000 เมกะวัตต์ จะได้รับการพัฒนาโดยได้รับความช่วยเหลือจากบริษัท ROSATOM ของรัสเซียและกลุ่มบริษัท JINED ของญี่ปุ่น
รัฐบาลเวียดนามระบุในขณะนั้นว่าโครงการถูกระงับไม่ใช่เพราะเหตุผลด้านเทคโนโลยี แต่เป็นเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ.