MGR ออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ในรัฐมณีปุระ ทางตะวันออกของอินเดีย เตือนชาวพม่าหลายพันคนที่หลบหนีความขัดแย้งในภาคสะกายว่าพวกเขามีเวลา 1 เดือนในการเดินทางกลับบ้าน แม้จะมีภัยคุกคามจากการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลทหารที่ทำลายหมู่บ้านของพวกเขาไปหลายแห่งก็ตาม
ภาคสะกายเผชิญกับการสู้รบดุเดือดระหว่างกองกำลังทหารของรัฐและกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้านนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเดือน ก.พ.2564 ที่ทำให้ชาวพม่าราว 5,000 คนในภูมิภาคนี้ต้องอพยพหลบหนีไปยังรัฐมณีปุระของอินเดีย
เมื่อปลายเดือนก่อน ทางการมณีปุระได้พบกับผู้พลัดถิ่นใน 2 เขต คือเขตกัมจง และเขตอูครุล ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองเตดิมของภาคสะกาย และบอกกับผู้พลัดถิ่นเหล่านั้นว่าพวกเขาจะต้องเดินทางกลับบ้านในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผู้ลี้ภัยชาวพม่า ระบุ
เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ระบุว่า ผู้ลี้ภัยจากสงครามในพม่าอยู่ในรัฐมณีปุระประมาณ 5,000 คน แต่ราว 3,000 คน หลบภัยอยู่ใน 2 เขตนี้ และเจ้าหน้าที่ยังกล่าวเสริมว่าครอบครัวที่มีเด็กในวัยเรียนจะได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ต่อจนถึงเดือน มี.ค.2568 เมื่อการสอบเสร็จสิ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวลานี้หลายเมืองในภาคสะกายจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่บ้านเรือนจำนวนมากถูกทำลายจากการวางเพลิงของรัฐบาลทหาร และการสร้างบ้านขึ้นใหม่นั้นเป็นเรื่องยาก ผู้พลัดถิ่นอีกรายหนึ่งระบุ
“ในพื้นที่ตอนบนของภาคสะกาย หมู่บ้านบางแห่งถูกเผาราบ ส่วนบ้านทั้งหมดในเขตซูธายาก็ถูกทำลายสิ้น ผู้ลี้ภัยจากพื้นที่เหล่านี้กำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับในเดือนนี้ พวกเขาจะต้องสร้างบ้านจากไม้ไผ่ชั่วคราว พวกเขาจะต้องเผชิญกับความยากลำบาก” ผู้พลัดถิ่นอีกราย ระบุ
ส่วนผู้ลี้ภัยจากเมืองตามู ของภาคสะกาย ไม่กล้าเดินทางกลับ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร
เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการผู้ลี้ภัยพม่าในพื้นที่กะบอ ของภาคสะกาย ที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อ กล่าวว่าผู้ลี้ภัยถูกขอให้เดินทางกลับบ้านเพื่อป้องกันการสู้รบในพื้นที่ชายแดนและเพื่อแก้ไขปัญหาชาติพันธุ์
อินเดียมีพรมแดนติดกับพม่ายาว 1,600 กิโลเมตร ที่ครอบคลุมรัฐทางตะวันออกของประเทศ คือรัฐมิโซรัม มณีปุระ นาคาแลนด์ และอรุณาจัลประเทศ
การโจมตีของรัฐบาลทหารต่อกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และกองกำลังสนับสนุนประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารในพม่า ทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในรัฐชินและภาคสะกาย โดยหลายพันคนได้อพยพข้ามแดนเข้าไปในฝั่งอินเดีย
ในบรรดาผู้ที่ลอบเข้าไปในฝั่งอินเดีย ยังรวมถึงผู้สนับสนุนผู้ที่ต่อสู้เพื่อยุติการปกครองของทหาร ซึ่งพวกเขาอาจตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรงหากถูกบังคับให้กลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร นักเคลื่อนไหวระบุ
ความพยายามของอินเดียที่จะยับยั้งการไหลบ่าของผู้ลี้ภัยจากพม่า ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน
ในเดือน ส.ค. ประชาชนในภาคสะกายระบุว่าสินค้าต่างๆ ทั้งข้าว น้ำมันปรุงอาหาร เกลือ เชื้อเพลิง และยา กำลังลดลงเรื่อยๆ เพราะการค้าหยุดชะงักเนื่องจากอินเดียปิดด่านชายแดน
ทางการอินเดียอ้างถึงความจำเป็นในการตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสินค้าผิดกฎหมายจากพม่าต่อการปิดด่านดังกล่าว แต่นักการทูตที่สถานทูตอินเดียในย่างกุ้งระบุว่ารัฐบาลอินเดียอนุญาตให้มีการเดินทางผ่านจุดผ่านแดนที่กำหนด และข้อจำกัดใดๆ ก็ตาม น่าจะถูกกำหนดขึ้นโดยพม่าหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
นอกจากนี้ อินเดียยังส่งกองกำลังทหารของรัฐบาลพม่าที่หลบหนีข้ามแดนเพื่อหนีการโจมตีของฝ่ายต่อต้านกลับประเทศเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา.