สหประชาชาติเตือนความขัดแย้งในพม่าทำรัฐยะไข่เข้าสู่ภาวะอดอยาก

เอเอฟพี - สหประชาชาติเตือนว่ารัฐยะไข่ ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งกำลังเข้าสู่ภาวะอดอยาก เนื่องจากสงครามกลางเมืองของพม่ากระทบการค้าและการผลิตทางการเกษตร

“เศรษฐกิจของรัฐยะไข่หยุดชะงัก” รายงานฉบับใหม่จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ระบุ และคาดการณ์ว่าภาวะอดอยากอาจเกิดขึ้นภายในกลางปี 2568 หากระดับของความไม่มั่นคงทางอาหารในปัจจุบันไม่ได้รับการแก้ไข

รายงานยังระบุว่า ประชาชนราว 2 ล้านคนเสี่ยงต่อการอดอยาก

ท่ามกลางการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นในประเทศ เส้นทางการค้าในประเทศและระหว่างประเทศที่นำไปสู่รัฐยะไข่ที่ยากจนอยู่แล้วแห่งนี้ถูกปิดกั้น ทำให้การเข้าถึงความช่วยเหลือและสินค้าถูกจำกัดอย่างรุนแรง

รายงานของ UNDP เตือนว่า นอกจากการสู้รบอย่างดุเดือดแล้ว ประชาชนในรัฐยะไข่ยังต้องเผชิญกับการขาดรายได้ ภาวะเงินเฟ้อสูง และการผลิตอาหารภายในประเทศลดลงอย่างมาก

พม่าเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่ต่อต้านการปกครองของพม่านับตั้งแต่ที่รัฐบาลทหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจีในเดือน ก.พ.2564

การปะทะกันสร้างความเสียหายให้รัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ นับตั้งแต่กองทัพอาระกัน (AA) โจมตีกองกำลังความมั่นคงในเดือน พ.ย.2566 ยุติการหยุดยิงที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่การรัฐประหาร

เนื่องจากเศรษฐกิจการเกษตรอยู่ในภาวะวิกฤต UNDP คาดการณ์ว่าการผลิตจะครอบคลุมความต้องการของรัฐเพียง 20% ภายในเดือน มี.ค. หรือเดือน เม.ย.

รายงานระบุว่า การผลิตข้าวภายในประเทศกำลังลดลง เนื่องจากการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และสภาพอากาศที่เลวร้าย

UNDP ระบุว่าปีนี้จะมีการปลูกข้าวราว 97,000 ตันในรัฐะไข่ เทียบกับ 282,000 ตันเมื่อปีก่อน

“จำนวนผู้พลัดถิ่นภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หมายความว่าหลายพื้นที่ไม่สามารถทำงานได้” UNDP ระบุ

ตามตัวเลขของสหประชาชาติ รัฐยะไข่มีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 500,000 คนในเดือน ส.ค. เทียบกับเกือบ 200,000 คนในเดือน ต.ค. 2566 ทั้งนี้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษคือสมาชิกของชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาและผู้พลัดถิ่น.