เอเอฟพี - นักข่าวชาวกัมพูชาที่มีชื่อเสียงและชนะรางวัลในระดับนานาชาติจากการเปิดโปงขบวนการหลอกลวงออนไลน์ กล่าวกับเอเอฟพีว่า เขาจะลาออกจากงานข่าว โดยกล่าวว่าเขาสูญเสียความกล้าหลังจากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว
ตำรวจจับกุม เมฆ ดารา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในสังคม ความเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดการประณามจากทั่วโลก
เขาได้รับการประกันตัวใน 3 สัปดาห์ต่อมา หลังจากที่ได้กล่าวขอโทษ ฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ลูกชายของเขา ในคลิปวิดีโอที่ถ่ายขึ้นขณะอยู่ในเรือนจำ
“ผมตัดสินใจที่จะลาออกจากงานสื่อสารมวลชนเนื่องจากการจับกุม การสอบสวน และการจำคุก” เมฆ ดารา กล่าวกับเอเอฟพี
“ผมยังรู้สึกกลัวอยู่” เขากล่าว และเสริมว่าเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุระหว่างการจับกุมเขา จากนั้นก็สอบปากคำเขาตลอดทั้งคืน
“ผมเสียความกล้าของผมไปแล้ว จิตวิญญาณผมถูกโจมตี ผมไม่เหลือความกล้าหาญใดๆ อีกต่อไปแล้ว” ดารา กล่าวกับเอเอฟพี โดยอ้างถึงการจับกุมและช่วงเวลาที่เขาถูกจำคุก
เขายังเรียกร้องให้ศาลถอนข้อกล่าวหาต่อเขาด้วย
เมื่อวันจันทร์ (4) ฮุน มาเนต ได้โพสต์ภาพของเขาที่พบหารือกับเมฆ ดารา รวมถึงภาพหนึ่งที่แสดงให้เห็นทั้งคู่โอบกอดกัน
ดารากล่าวว่า เขาได้แจ้งให้ฮุน มาเนต ทราบถึงการตัดสินใจของเขาในการลาออกจากงานสื่อสารมวลชนระหว่างพบปะกัน ที่เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัว
ตำรวจเข้าควบคุมตัวเมฆ ดารา อายุ 36 ปี หลังจากเข้าหยุดรถที่มีตัวเขา และครอบครัวของเขาโดยสารมาจากสีหนุวิลล์ เมืองชายฝั่ง ที่หลายคนสงสัยว่าปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์ดำเนินการอยู่ในพื้นที่
รายงานข่าวของเขาปรากฏอยู่ในสื่อต่างประเทศมากมายและเขาทำงานให้สำนักข่าว Voice of Democracy ในกัมพูชา ก่อนที่ทางการจะปิดสำนักข่าวดังกล่าวในเดือน ก.พ.2566
นับตั้งแต่นั้นมา ดาราใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาในการแบ่งปันเนื้อหาข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการแพร่กระจายของการหลอกลวงออนไลน์ที่ลวงเหยื่อทางออนไลน์เพื่อฉ้อโกงเงินจำนวนมหาศาลและการค้ามนุษย์ทั่วภูมิภาค
เมื่อปีก่อน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้มอบรางวัล Hero Award ให้แก่ดารา จากความพยายามในการปราบปรามการค้ามนุษย์ สำหรับการสืบสวนการแสวงหาประโยชน์ของขบวนการฉ้อโกงทางออนไลน์
รางวัลดังกล่าวยกย่องการรายงานข่าวการค้ามนุษย์อย่างกล้าหาญ และทำให้รัฐบาลปรับปรุงการตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว
การจับกุมดาราเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังเขาโพสต์ภาพลงบนสื่อสังคมออนไลน์ที่อ้างว่าเป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกทำลายเพื่อสร้างเหมืองหิน ตามการระบุของสมาคมพันธมิตรผู้สื่อข่าวกัมพูชา
ทางการท้องถิ่นระบุว่า ภาพที่ตอนนี้ถูกลบไปแล้วว่าเป็น ‘ข่าวปลอม’ และเรียกร้องให้ดาราต้องรับโทษจากการเผยแพร่ภาพดังกล่าว
หลังจากประกาศแจ้งข้อหากับดารา ศาลกรุงพนมเปญได้กล่าวหาว่าเขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อจุดชนวนความโกรธแค้นและทำให้ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้นำของรัฐบาลกัมพูชา
ทางการกัมพูชามักใช้ข้อหายุยงปลุกปั่นกับนักเคลื่อนไหว และดาราอาจต้องติดคุกสูงสุด 2 ปี หากศาลตัดสินว่ามีความผิด
กัมพูชาถูกจัดอยู่ในอันดับท้ายๆ ของการจัดอันดับเสรีภาพสื่อระหว่างประเทศ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหารัฐบาลกัมพูชามานานแล้วว่าใช้คดีความเป็นเครื่องมือในการปิดปากผู้เห็นต่าง.