จีนสั่งปิดชายแดน "รัฐฉาน-คะฉิ่น" กดดันกองกำลังติดอาวุธให้หยุดรบกับพม่า

MGR Online - จีนสั่งปิดชายแดนที่เชื่อมกับรัฐฉานและรัฐคะฉิ่น ห้ามส่งสินค้าจำเป็นเข้าไปในพม่า เพื่อกดดันกองกำลังติดอาวุธให้หยุดรบกับกองทัพพม่า เพราะเป็นการก่อกวนโครงข่ายคมนาคมตามแนวระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า และข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2567 เป็นต้นมา สื่อในรัฐฉานและรัฐคะฉิ่นต่างรายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งปิดด่านชายแดนหลายจุดที่เชื่อมระหว่างจีนกับพม่า และห้ามการส่งสินค้าจำเป็นข้ามจากฝั่งจีนเข้าไปขายในพม่า ส่งผลให้ประชาชนในหลายเมืองของรัฐฉานกับรัฐคะฉิ่นต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงอาหารสด และพืชผักหลากหลายชนิดที่เคยนำเข้ามาจากจีน

โดยในรัฐฉาน เขตพื้นที่จังหวัดหมู่เจ้ได้มีการปิดด่านชายแดนในเขตจินซานจ่อ เขตหย่านโหล่งจิ่น รวมถึงช่องทางเชื่อมชายแดนในเมืองน้ำคำ ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการขนส่งสินค้าจำเป็นจากจีนเข้ามาป้อนความต้องการของประชาชนในพม่า


ส่วนประตูเมือง 3 แห่ง ที่เป็นช่องทางให้คนข้ามผ่านไปมาระหว่าง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะประตูช้างเผือก ทางฝั่งจีนมีการตั้งด่านตรวจตราอย่างเข้มงวด เพราะได้รับคำสั่งห้ามไม่ให้มีการขนอุปกรณ์ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน รวมถึงแผงโซลาร์เซลล์ จากฝั่งจีนข้ามมายังฝั่งพม่าอย่างเด็ดขาด

ในเขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง ได้มีการปิดช่องทางเชื่อมชายแดนที่เมืองโก จังหวัดหมู่เจ้ ซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการกองทัพโกก้าง (MNDAA) และด่านชายแดนชิงส่วยเหอ ในเมืองกุ๋นโหลง ที่เป็นช่องทางหลักของการขนส่งสินค้าที่จีนและพม่าซื้อขายกัน

ในเขตปกครองตนเองชนชาติว้า ซึ่งมีด่านชายแดนที่เชื่อมกับจีน 16 จุด ได้ถูกสั่งปิดไปแล้ว 10 จุด เหลือเปิดให้คนข้ามผ่านไปมาได้เพียง 6 จุด แต่ทุกจุดต่างมีการตั้งด่านตรวจตราอย่างเข้มงวด


ส่วนพื้นที่พิเศษหมายเลข 4 เขตปกครองตนเองเมืองลา รัฐฉานตะวันออก ทางฝั่งจีนได้สั่งปิดด่านต้าล่อที่เชื่อมเมืองลากับเขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน

การเปิดด่านชายแดนเหล่านี้ เป็นขั้นตอนต่อเนื่องเพื่อกดดันกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ โดยเฉพาะกองทัพโกก้าง และกองทัพตะอั้ง (TNLA) ที่เปิดสงครามสู้รบกับกองทัพพม่าอยู่ในหลายเมืองในภาคเหนือของรัฐฉาน ให้หยุดรบ เพราะเป็นการก่อกวนเส้นทางขนส่งสินค้าตามแนวระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า และข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่จีนต้องการเปิดช่องทางออกสู่ทะเล โดยเชื่อมโครงข่ายคมนาคมระหว่างมณฑลยูนนาน ผ่านรัฐฉาน ไปออกมหาสมุทรอินเดียที่เมืองเจ้าก์ผิ่ว รัฐยะไข่

ก่อนหน้านี้ จีนได้เป็นตัวกลางในการเจรจาสงบศึกระหว่างกองทัพโกก้าง กองทัพตะอั้ง กับกองทัพพม่า รวมถึงถึงเพิ่มแรงกดดันผ่านกองทัพสหรัฐว้า ซึ่งมีอิทธิพลมากต่อกองทัพโกก้างกับกองทัพตะอั้ง เพื่อให้ทั้ง 2 กองทัพยุติสงครามที่ดำเนินอยู่ในภาคเหนือของรัฐฉาน แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ในรัฐฉานยังคงไม่ดีขึ้น ยังคงมีการสู้รบอยู่ในเมืองหลักหลายเมือง โดยเฉพาะเมืองที่ตั้งอยู่ตามแนวทางหลวงหมายเลข 3 เช่น ล่าเสี้ยว สีป้อ จ๊อกแม และปินอูลวิน


ส่วนในรัฐคะฉิ่น หลังจากกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) จับมือกับกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเงา (PDF) บุกโจมตีและสามารถยึดเมืองปั่นหว่า ชายแดนรัฐคะฉิ่นที่ติดกับนครเถิงซง จังหวัดเป่าซาน มณฑลยูนนาน ได้เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ทำให้ทางการเถิงซง ได้สั่งปิดชายแดนที่เชื่อมกับเมืองปั่นหว่า เพราะได้กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ของจีน เนื่องจากเมืองปั่นหว่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายาก (Rare Earth) แหล่งใหญ่ ที่มีนักลงทุนจีนข้ามไปลงทุนทำเหมือง Rare Earth อยู่หลายแห่งในเมืองนี้

ถัดจากนั้นไม่กี่วัน ทางฝั่งจีนได้มีคำสั่งปิดชายแดนที่เชื่อมกับรัฐคะฉิ่นเพิ่มอีกหลายจุด ได้แก่ ด่านชายแดนกันไปก์ตี ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการขนส่งสินค้าระหว่างรัฐคะฉิ่นกับจีน รวมถึงช่องทางชายแดนที่เมืองหล่ายจ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพเอกราชคะฉิ่น.