MGR ออนไลน์ - พายุโซนร้อนจ่ามีพัดถล่มเกาะลูซอนในฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ (24) และคาดว่าจะเข้าสู่เขตน่านน้ำของเวียดนามคืนนี้ โดยความเร็วลมจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็น 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเข้าใกล้แนวชายฝั่งของเวียดนาม
ตามข้อมูลของศูนย์อุทกวิทยาและอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ระบุว่าเมื่อเวลา 7.00 น. ของวันพฤหัสฯ พายุได้เคลื่อนตัวเหนือเกาะลูซอนตอนเหนือด้วยความเร็วลมสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเข้าสู่ทะเลตะวันออกในคืนนี้ ซึ่งจะกลายเป็นพายุลูกที่ 6 ที่จะส่งผลกระทบต่อเวียดนามในปีนี้
จากการคาดการณ์ พายุจะยังมีกำลังแรงตลอดคืน และเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก และทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเข้าสู่พื้นที่ทางตะวันออกของทะเลตะวันออกในเช้าวันศุกร์
ตั้งแต่วันอาทิตย์ ภายใต้อิทธิพลของมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนตัวลงมาจากทางเหนือ คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวไปทางใต้และมีกำลังแรงขึ้น โดยมีความเร็วลมสูงสุด 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใกล้ชายฝั่งภาคกลางของเวียดนาม
แต่ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติยังไม่ยืนยันว่าพายุจะขึ้นฝั่งเวียดนามหรือไม่
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าหลังจากพายุเข้าสู่ทะเลตะวันออกแล้ว ลมจะแรงขึ้นเป็น 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและจะคงความเร็วดังกล่าวในขณะที่เข้าใกล้น่านน้ำของเวียดนามตอนกลาง ส่วนหอสังเกตการณ์ฮ่องกงคาดการณ์ว่าพายุจ่ามีจะมีความเร็วสูงสุดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหันกลับออกสู่ทะเลโดยไม่ขึ้นฝั่ง
พายุจ่ามีได้ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรงในฟิลิปปินส์ตอนเหนือแล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และทำให้ประชาชนมากกว่า 150,000 คน ต้องอพยพเมื่อพายุขึ้นฝั่งที่ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ตั้งแต่ต้นปี ทะเลตะวันออกเผชิญกับพายุ 5 ลูก โดยพายุไต้ฝุ่นยางิเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่ขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งตอนเหนือเมื่อวันที่ 7 ก.ย. พายุทำให้เกิดกระแสลมแรงและฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 344 คน และก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่า 81.5 ล้านล้านด่ง (ราว 3,310 ล้านดอลลาร์) ในเวียดนาม.