เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจัดการภัยพิบัติของเวียดนามระบุว่า เหตุอุทกภัยร้ายแรงในภาคกลางของประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน และประชาชนมากกว่า 10,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง
เมื่อต้นเดือนนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคเหนือของประเทศได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอันเนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นยางิ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์
แต่ขณะที่ระดับน้ำท่วมจากไต้ฝุ่นยางิเริ่มลดลงในภาคเหนือ ภาคกลางของเวียดนามก็เผชิญกับพายุรุนแรงอีกลูกหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักและทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างอันตราย
เจ้าหน้าที่ด้านการจัดการภัยพิบัติใน จ.แท็งฮว้า กล่าวว่าในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนมากกว่า 11,700 คน อพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองไปยังพื้นที่สูง
ส่วน จ.เหงะอาน ที่อยู่ใกล้กัน มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 คน หลังจากถูกกระแสน้ำพัดหายในน้ำท่วมฉับพลัน
กระทรวงเกษตรระบุว่า นับตั้งแต่วันเสาร์ (21) มีบ้านประมาณ 320 หลังได้รับความเสียหาย พื้นที่ทางการเกษตรมากกว่า 6,300 เฮกตาร์ถูกทำลาย และอาคารเรียนอย่างน้อย 40 แห่งในพื้นที่ถูกน้ำท่วมหรือได้รับความเสียหาย
ในพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย น้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนใน จ.ลำปาง และส่งผลกระทบต่อประชาชน 1,500 หลังคาเรือน ทางการเรียกร้องให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำวังอพยพไปยังที่ปลอดภัย
ภาคเหนือของไทย พม่า และลาว ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุไต้ฝุ่นยางิ โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 702 คน
พม่าได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิต 384 คน รองลงมาคือเวียดนาม ที่มีผู้เสียชีวิต 299 คน
โรงเรียนเกือบ 1,000 แห่งทั่วเวียดนามและไทยได้รับความเสียหาย ส่งผลให้เด็กๆ ต้องหยุดเรียน ตามการระบุขององค์กร Save the Children
ในกรุงฮานอย บ้านเรือนในย่านชานเมืองของเมืองหลวงยังคงจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์หลังจากไต้ฝุ่นยางิพัดถล่ม และเกษตรกรยังคงต้องต่อสู้กับผลพวงจากน้ำท่วมทุ่ง ชาวนาออกเก็บเกี่ยวผลผลิตเร็วกว่าปกติหลายสัปดาห์ เพื่อพยายามที่จะรักษาผลผลิตที่ยังไม่เสียหาย
“เราเสียผลผลิตไปเกือบทั้งหมด เราออกไปเก็บเกี่ยวข้าววันนี้ด้วยความหวังว่าจะสามารถรักษาผลผลิตไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ชาวนาวัย 60 ปี กล่าว
เวียดนามมักเผชิญกับพายุโซนร้อนที่มักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ในช่วงระหว่างเดือน มิ.ย. ถึงเดือน พ.ย.ของทุกปี
แต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ทำให้เกิดรูปแบบของสภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้น ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายได้มากขึ้น.