xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำเวียดนามคุย “โบอิ้ง” ชวนลงทุนโรงงานผลิตชิ้นส่วน-ศูนย์ซ่อมบำรุงในประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ออนไลน์ - ประธานาธิบดีโต เลิม ของเวียดนาม ได้เรียกร้องให้บริษัทโบอิ้ง (Boeing) ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริกัน ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ในเวียดนาม

ในการประชุมที่นิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ (22) กับเบรนแดน เนลสัน รองประธานอาวุโสของบริษัทโบอิ้งและประธานโบอิ้งโกลบอล ประธานาธิบดีเลิมกล่าวว่า เวียดนามมุ่งมั่นที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสหรัฐฯ รวมถึงโบอิ้ง เข้าลงทุนในตลาดของตน

ผู้นำเวียดนามกล่าวว่า เขาแสวงหาการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคล การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการวิจัยและพัฒนาจากโบอิ้ง และเสนอให้โบอิ้งดึงพันธมิตรในเวียดนามเข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น โดยอ้างถึงความมุ่งมั่นของโบอิ้งที่จะช่วยเหลือเวียดนามพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้โบอิ้งทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรในเวียดนามเกี่ยวกับข้อตกลงจัดซื้อเครื่องบินที่เพิ่งลงนามเมื่อไม่นานนี้

เวียดนามกำลังลงทุนอย่างหนักในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการบิน โดยเขาอ้างถึงโครงการสำคัญบางโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ เช่น สนามบินลองแถ่ง (Long Thanh) ขนาด 5,000 เฮกตาร์ ใน จ.ด่งนาย และอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติมที่สนามบินนานาชาติเติ่นเซินเญิต ในนครโฮจิมินห์

สนามบินลองแถ่ง ที่มีมูลค่าการลงทุนราว 16,060 ล้านดอลลาร์​ จะเป็นสนามบินระดับ 4F และมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาค

และเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายดังกล่าว เนลสันกล่าวว่าโบอิ้งได้จัดการประชุมหารือหลายครั้งกับสายการบินเวียดนาม เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินและหารือถึงแนวทางแก้ไขความท้าทายต่างๆ และทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงการจัดซื้อที่ได้ลงนามระหว่างการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อปีก่อนด้วย

เนลสันยังกล่าวชื่นชมวิสัยทัศน์ของผู้นำเวียดนามสำหรับการมอบหมายบทบาทสำคัญให้อุตสาหกรรมการบินในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และให้คำมั่นว่าโบอิ้งจะสนับสนุนการพัฒนาของเวียดนาม โดยมุ่งเน้นที่การฝึกอบรมพนักงานและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามบินและสิ่งอำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษา

โบอิ้งเป็นบริษัทการบินและอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตเครื่องบินเจ็ตเชิงพาณิชย์ ระบบป้องกันประเทศและระบบอวกาศชั้นนำ บริษัทมีพนักงานมากกว่า 140,000 คนใน 65 ประเทศ และสร้างรายได้กว่า 94,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2563.


กำลังโหลดความคิดเห็น