เอพี - ผู้นำสหภาพแรงงานที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันจันทร์ (16) หลังรับโทษจำคุกจากการมีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วงต่อต้านกาสิโนรายใหญ่ของประเทศ ได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงเดินหน้าจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม
ชิม สิธา ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี เมื่อเดือน พ.ค.2566 ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้กระทำความผิดทางอาญา รวมถึงช่วงเวลาที่ถูกจำคุกก่อนถูกตัดสินความผิด ในความเชื่อมโยงกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านกาสิโน NagaWorld ที่เป็นการประท้วงเรียกร้องสิทธิแรงงานที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
เธอเป็นผู้นำการผละงานประท้วงของพนักงานหลายร้อยคนที่เริ่มต้นขึ้นในเดือน ธ.ค.2564 เพื่อประท้วงการเลิกจ้างคนงานจำนวนมากและการยกเลิกสหภาพแรงงานที่กาสิโนในกรุงพนมเปญ และเธอถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาหลังจากการชุมนุมประท้วงของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อเรียกร้องให้มีการจ้างงานใหม่ในเดือน ม.ค.2565
ในช่วงปลายปี 2564 กาสิโน NagaWorld ได้ไล่ออกพนักงาน 373 คน เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินเนื่องจากการระบาดของโควิด
ชิม สิธา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวที่บ้านของเธอไม่นานหลังจากได้รับการปล่อยตัว โดยเธอให้คำมั่นที่จะยังเป็นผู้นำการผละงานประท้วงต่อไป
“เกี่ยวกับการสนับสนุนการต่อสู้เพื่อสิทธิของสหภาพแรงงานที่ NagaWorld เราจะยังคงดำเนินการผละงานประท้วต่อไปจนกว่าเราจะได้ทางออก นั่นคือจุดยืนที่เราตั้งไว้ตั้งแต่การประท้วงครั้งแรก” ชิม สิธา กล่าว
“แต่น่าเสียดาย ที่จนถึงวันนี้ หลังจากผ่านมาเกือบ 3 ปี คนงานของเรายังไม่ได้รับความยุติธรรม ดังนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีความยุติธรรม การต่อสู้ของเราก็จะดำเนินต่อไป” ชิม สิธา ระบุ
ในระหว่างแถลงข่าวในเวลาต่อมา หญิงวัย 36 ปีผู้นี้กล่าวว่าช่วงเวลาที่เธออยู่ในคุกไม่ได้ทำให้เธอหมดกำลังใจ แม้ว่าจะมีผู้คนแออัดและเข้าถึงอาหารและสิ่งจำเป็นพื้นฐานได้อย่างจำกัด
“ไม่มีใครอยากอยู่ในคุก และฉันพูดได้เลยว่าพวกเราหวาดกลัว แต่ฉันต้องการเปรียบเทียบ..ว่าสิ่งไหนน่ากลัวกว่ากัน? สำหรับฉันแล้ว ความกลัวการสูญเสียสิทธิในสหภาพแรงงาน ความกลัวที่จะสูญเสียสิทธิในการจัดตั้งสหภาพแรงงานน่ากลัวกว่าการขังฉันไว้ในคุก” ชิม สิธา กล่าว
หลังจากการจับกุม ชิม สิธา พนักงานที่ถูกไล่ออกบางส่วนยังคงชุมนุมประท้วงอยู่เป็นประจำเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชิม สิธา และให้พวกเขาได้งานคืน แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานประกาศในเดือน ธ.ค.2565 ว่า มีพนักงานมากกว่า 200 คน ได้รับการชดเชยตามกฎหมายแรงงาน และถอนข้อเรียกร้องของพวกเขา
“แม้ว่าทางการจะพยายามอย่างไม่ลดละในการปราบปรามการชุมนุมประท้วง ที่รวมทั้งการล่วงละเมิดทางเพศ การทำร้ายร่างกาย และการคุกคามทางกฎหมาย แต่การชุมนุมประท้วงยังคงดำเนินต่อไปในกรุงพนมเปญ” LICADHO องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ระบุ.