เอพี - สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และได้รับบาดเจ็บ 176 คน หลังจากไต้ฝุ่นยางิซัดถล่มภาคเหนือของประเทศ ขณะเดียวกันทางการได้แจ้งเตือนว่าอาจมีฝนตกหนักแม้ไต้ฝุ่นจะอ่อนกำลังลงแล้วก็ตาม
ไต้ฝุ่นยางิที่เจ้าหน้าที่เวียดนามระบุว่าเป็นหนึ่งในไต้ฝุ่นที่มีพลังรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มภูมิภาคในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมากกว่า 3 ล้านคนในภาคเหนือของเวียดนามไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านเรือนได้รับความเสียหายเกือบ 3,300 หลัง และยังสร้างความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญเกือบ 116,192 เฮกตาร์ ที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าวและผลไม้ เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิกหลังจากสนามบิน 4 แห่งปิดทำการ
ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งใน จ.กว๋างนีง และเมืองไฮฟอง ที่เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของประเทศ ด้วยความเร็วลมสูงสุด 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในบ่ายวันเสาร์ (7) พายุพัดกระหน่ำต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 15 ชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆ อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ (8) หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามคาดการณ์ว่าจังหวัดทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศจะมีฝนตกหนัก และเตือนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มตามเนินเขาสูง
ที่อ่าวฮาลอง แหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ชาวประมงต่างรู้สึกช็อกขณะตรวจสอบความเสียหายในเช้าวันอาทิตย์ หน่วยงานจัดการภัยพิบัติรายงานว่ามีเรือจม 30 ลำ ที่พื้นที่จอดเรือใน จ.กว๋างนีง ริมอ่าวฮาลอง หลังจากถูกกระแสลมแรงและคลื่นซัดเข้าใส่
เจ้าหน้าที่เทศบาลพร้อมด้วยทหารและตำรวจต่างทำงานอย่างขะมักเขม้นในกรุงฮานอย เข้าเก็บกวาดต้นไม้ที่หักโค่น ป้ายโฆษณาและเสาไฟฟ้าที่โค่นล้ม หลังคาบ้านที่ถูกลมพายุซัดหาย ขณะเดียวกัน ก็ประเมินความเสียหายของอาคารต่างๆ
ไต้ฝุ่นยางิยังคงเป็นพายุขณะที่พัดถล่มพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ และเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันพุธ โดยทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และสูญหายอีก 26 คน ที่ส่วนใหญ่เกิดจากดินถล่มและน้ำท่วม จากนั้นพายุเคลื่อนเข้าสู่จีน และทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และได้รับบาดเจ็บเกือบร้อย ก่อนจะพัดขึ้นฝั่งที่เวียดนาม
พายุเช่นไต้ฝุ่นยางิมีกำลังแรงขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหลักแล้วเป็นเพราะน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นทำให้มีพลังงานมากขึ้นในการก่อตัวเป็นพายุ ส่งผลให้ลมแรงขึ้นและมีฝนตกหนักขึ้น เบนจามิน ฮอร์ตัน ผู้อำนวยการ Earth Observatory of Singapore ระบุ.