MGR Online - กองทัพว้าใต้ พื้นที่ติดชายแดนเชียงใหม่-เชียงราย ประกาศเรียกชาวว้าที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศให้รีบกลับมาเกณฑ์ทหารภายในวันที่ 7 ก.ย. ฝ่าฝืนมีโทษ เหตุทั่วรัฐฉานไม่สงบ มีสงครามเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ตั้งเป้าระดมกำลังพลใหม่รอบนี้ 4,000 นาย
วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เขตทหารที่ 171 กองบัญชาการภาคใต้ กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ได้มีประกาศเรียกตัวบุคคลผู้ที่มีเชื้อสายว้า ซึ่งได้ออกไปทำงานอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะใน สปป.ลาว รวมถึงผู้ที่ออกไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย และผู้ที่เคยหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ให้รีบกลับมารายงานตัวต่อหน่วยงานความมั่นคงในภูมิลำเนาของตน เพื่อเตรียมตัวเข้ารับการเกณฑ์ทหารใหม่ ภายในวันที่ 31 สิงหาคม-7 กันยายน 2567 หากฝ่าฝืนหรือกลับมารายงานตัวไม่ตรงตามกำหนด จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายของกองทัพสหรัฐว้า
ในหนังสือได้ให้เหตุผลการเรียกเกณฑ์ทหารใหม่รอบนี้ว่า เนื่องจากสถานการณ์ในรัฐฉานขณะนี้ไม่มีความสงบ มีการสู้รบของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ กองทัพสหรัฐว้าจึงต้องเตรียมความพร้อมโดยเกณฑ์คนหนุ่มสาวเข้ามาเป็นทหารใหม่เพื่อรับใช้กองทัพ โดยตั้งเป้าเกณฑ์ทหารใหม่รอบนี้ จำนวน 4,000 นาย
ตามกฎหมายของกองทัพสหรัฐว้า เมื่อมีการเรียกเกณฑ์ทหารใหม่แต่ละครั้ง ทุกครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษหมายเลข 2 เขตปกครองตนเองชนชาติว้า ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ต้องส่งบุตรหลานมาเป็นทหารใหม่ อย่างน้อยครัวเรือนละ 1 คน โดยทหารใหม่ที่เป็นชายมีกำหนดเวลาในการรับใช้กองทัพ 9 ปี ส่วนทหารใหม่เพศหญิง กำหนดให้ต้องรับใช้กองทัพเป็นเวลา 5 ปี
เขตทหารที่ 171 หรือกองทัพว้าใต้ มีฐานบัญชาการและพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ในจังหวัดเมืองสาต รัฐฉานภาคตะวันออก ซึ่งมีชายแดนติดกับจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายของประเทศไทย (โปรดดูแผนที่ประกอบ) ส่วนกองทัพว้าเหนือ มีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ที่เมืองป๋างซาง เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองชนชาติว้า ซึ่งมีชายแดนติดกับจังหวัดผู้เอ่อร์ และหลินชาง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
แม้พื้นที่เคลื่อนไหวของกองทัพสหรัฐว้าอยู่ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวินเป็นหลัก แต่หลังจากกองทัพโกก้าง (MNDAA) กับกองทัพตะอั้ง (TNLA) ได้จับมือกับกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเงา (PDF) เปิดปฏิบัติการ 1027 ภาคสอง บุกโจมตีหน่วยทหารของกองทัพพม่า ในจังหวัดล่าเสี้ยว เมืองกุ๊ต และจ๊อกแม ภาคเหนือของรัฐฉาน ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2567 จนเกิดสงครามสู้รบรุนแรงกระจายไปหลายพื้นที่ทั่วภาคเหนือของรัฐฉานจนถึงขณะนี้
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม กองทัพสหรัฐว้าได้เคลื่อนกำลังพลไม่ต่ำกว่า 2,000 นาย ข้ามจากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน ไปปักหลักอยู่ที่เมืองต้างย่าน ห่างจากเมืองล่าเสี้ยวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 82 กิโลเมตร โดยให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการให้เมืองต้างย่านเป็นเมืองที่ปลอดการสู้รบ สำหรับรองรับประชาชนที่ต้องการลี้ภัยสงครามจากเมืองล่าเสี้ยวสามารถเข้ามาพักพิงอยู่ที่นี่ได้จนกว่าเหตุการณ์ในเมืองล่าเสี้ยวจะสงบ
โดยทหารว้าทั้ง 2,000 นาย เป็นทหารที่มาจากกองทัพว้าใต้ 1,500 นาย อีก 500 นาย มาจากกองทัพว้าเหนือ
ต่อมาวันที่ 27 กรกฎาคม ทหารกองทัพสหรัฐว้าจำนวนหนึ่งก็ได้เคลื่อนพลเข้าไปในเมืองล่าเสี้ยว โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อปกป้องผลประโยชน์และป้องกันสำนักงานประสานงานของกองทัพสหรัฐว้าที่ตั้งอยู่ในเมืองล่าเสี้ยว
กองทัพสหรัฐว้าเป็นกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ในรัฐฉานที่มีกำลังพลมากที่สุด และมีอาวุธที่ทันสมัยที่สุด ประมาณการว่า กำลังพลที่ประจำการอยู่ในกองทัพสหรัฐว้าปัจจุบัน มีไม่ต่ำกว่า 30,000 นาย.