เอเอฟพี - บ้านริมทะเลสาบที่อองซานซูจี ผู้นำประชาธิปไตยของพม่า ถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาหลายปี ถูกนำออกประมูลขายเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ (15) แต่ไม่มีคนสนใจเข้าร่วมประมูลอีกเช่นเคย
บ้าน 2 ชั้นและที่ดินขนาด 1.9 เอเคอร์ ถูกนำออกประมูลขายหลังจากเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างอองซานซูจีและพี่ชายของเธอ
การประมูลครั้งนี้ กำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับการเสนอราคาที่ 3 แสนล้านจ๊าต หรือประมาณ 140 ล้านดอลลาร์ ตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลทหารที่ 2,100 จ๊าตต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นกล่าวกับเอเอฟพีในเดือน มี.ค.ว่า อสังหาริมทรัพย์ขนาดใกล้เคียงกันในย่านหรูหราของย่างกุ้ง มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านดอลลาร์
ก่อนการประมูล ฝูงชนจำนวนหนึ่งที่ส่วนใหญ่เป็นนักข่าวได้รวมตัวกันที่หน้าบ้านบนถนนยูนิเวอร์ซิตี้อันร่มรื่น ห่างจากสถานทูตสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ประตู
เหนือประตูบ้าน มีรูปของนายพลอองซาน วีรบุรุษของพม่า พ่อของซูจี เฝ้าดูการดำเนินการ ในขณะที่ตำรวจติดอาวุธยืนเฝ้าอยู่หลังกระสอบทราย
ศาลท้องถิ่นติดป้ายประกาศไว้ที่ประตูระบุว่า ‘อาคารและมรดกตกทอดทุกชิ้นเป็นของดอ ขิ่น จี’ ซึ่งเป็นแม่ของซูจี
นายประมูลออกมาจากบริเวณบ้านและถามหาผู้ซื้อ 3 ครั้ง จากนั้นก็ประกาศว่าการประมูลไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่มีใครแสดงความสนใจ
เป็นเวลากว่า 15 ปี ซูจีถูกกองทัพกักบริเวณอยู่ภายในกำแพงของบ้าน หลังจากเธอมีชื่อเสียงโด่งดังจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารในปี 2531
เธอถูกตัดขาดจากสามีและลูกๆ ในอังกฤษ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเปียโน อ่านนิยายแนวสืบสวน และทำสมาธิ ขณะที่สถานะของเธอในฐานะผู้นำประชาธิปไตยเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนหลายร้อยชีวิตรวมตัวกันบนทางเท้าหน้าบ้านเพื่อฟังเธอพูดคุยเกี่ยวกับประชาธิปไตย และการต่อสู้กับรัฐบาลทหารโดยไม่ใช้ความรุนแรง
หลังจากได้รับการปล่อยตัวในปี 2553 เธอยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ที่เธอได้ต้อนรับผู้นำต่างชาติ นักข่าว และนักการทูตจำนวนมาก
ในปี 2555 ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ในขณะนั้น ได้ยกย่องเธอให้เป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยระหว่างเยือนบ้านหลังดังกล่าว
ซูจีออกจากย่างกุ้งในปี 2555 และย้ายไปกรุงเนปีดอเพื่อปกครองประเทศ ที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงแบ่งปันอำนาจกับกองทัพ
เธอถูกควบคุมตัวที่นั่นในช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.พ.2564 เมื่อกองทัพยึดอำนาจอีกครั้ง ที่เป็นการยุติการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ดำเนินมาได้เพียง 10 ปี และทำให้ประเทศเข้าสู่ความวุ่นวายนองเลือด.
