เอเอฟพี - สหประชาชาติได้กล่าวประณามสิ่งที่เรียกว่า ‘แนวโน้มที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง’ ของความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในพม่า ที่พลเรือนติดอยู่ท่ามกลางการสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์
“เราขอประณามความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา” ฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าว
ฮักกล่าวว่ามีรายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับพลเรือนถูกสังหารในเมืองหม่องดอ ในรัฐยะไข่ และเมืองล่าเสี้ยว ในรัฐชาน ขณะพยายามหลบหนีการสู้รบ
เขากล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งและความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น โดยพลเรือนต้องแบกรับแรงกดดันของความขัดแย้งที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านชีวิต
สหประชาชาติเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งถึงภาระผูกพันตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ในการปกป้องพลเรือนและทรัพย์สินของพลเรือน
“ฝ่ายต่างๆ ควรอนุญาตให้ชุมชนทั้งหมดเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างปลอดภัย” ฮัก กล่าว และเสริมว่าผู้คนราว 18.6 ล้านคน รวมถึงเด็ก 6 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือนี้
นับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2564 พม่าติดอยู่ในความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกองทัพและฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาจากฝ่ายค้านทางการเมืองและชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายพลเหล่านี้ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้หลายครั้งในพื้นที่ชายแดนให้กลุ่มติดอาวุธในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่มีทีท่าว่าจะมีการเจรจากัน.