สถานทูตจีนแนะพลเมืองในรัฐชานเหนือออกจากพื้นที่ขัดแย้ง

MGR ออนไลน์ - สถานทูตจีนในพม่าเรียกร้องให้พลเมืองจีนในเมืองล่าเสี้ยว และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในรัฐชานตอนเหนือ ย้ายออกไปยังสถานที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด

ในคำแถลงที่เผยแพร่ผ่านทางช่องทาง WeChat สถานทูตจีนระบุว่า ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ในระดับสูงในหลายพื้นที่ของรัฐชานตอนเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองล่าเสี้ยว และเรียกร้องให้ชาวจีนในพื้นที่เหล่านั้นรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของตนต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลโดยเร็วที่สุด

สถานทูตยังเรียกร้องให้พลเมืองจีนทุกคนในรัฐชานตอนเหนือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ย้ายออกทันทีที่สถานการณ์ด้านความปลอดภัยเอื้ออำนวย อยู่ห่างจากพื้นที่ขัดแย้ง และพิจารณาการอพยพกลับบ้าน นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้พลเมืองจีนดำเนินการปกป้องทรัพย์สินของตน

สถานทูตระบุว่าในกรณีฉุกเฉิน พลเมืองจีนควรขอความช่วยเหลือจากสถานทูตจีนในนครย่างกุ้ง หรือสถานกงสุลใหญ่ในเมืองมัณฑะเลย์

นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ 1027 ระยะที่ 2 ในรัฐชานเหนือในปลายเดือน มิ.ย. พันธมิตรสามภราดรภาพของสามกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ประกอบด้วย กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่า (MNDAA) กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) ได้เข้ายึดล่าเสี้ยว เมืองมีด หนองเขียว และจ๊อกแมในรัฐชานตอนเหนือ และโมก๊ก ซินกู ในภาคมัณฑะเลย์

เนื่องจากสูญเสียดินแดนในการต่อสู้ภาคพื้นดินให้กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง รัฐบาลทหารจึงตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ยังพื้นที่พลเรือนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังฝ่ายต่อต้าน

“ในรัฐชานตอนเหนือมีพลเมืองจีนอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อทำธุรกิจ คำแถลงของสถานทูตจีนมีขึ้นเพื่อคนเหล่านั้น” นักวิเคราะห์การเมือง กล่าว

ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ก่อนที่การสู้รบจะมาถึงเมืองล่าเสี้ยว ชาวจีนหลายพันคนอาศัยอยู่ที่นั่น กระจายอยู่ทั่วเมืองและลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภท โดยเฉพาะธุรกิจด้านความบันเทิง ทั้งร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร บาร์ และสถานที่เล่นการพนัน แต่พวกเขาก็ยังลงทุนอย่างหนักในธุรกิจอื่นๆ ที่แข่งขันโดยตรงกับนักธุรกิจท้องถิ่นด้วย

ชาวเมืองล่าเสี้ยวกล่าวว่า ชาวจีนได้ตั้งถิ่นฐานในรัฐชานตอนเหนือรวมทั้งเมืองล่าเสี้ยว มาตั้งแต่สมัยของ พล.อ.อาวุโส ตานฉ่วย อดีตผู้นำเผด็จการทหาร และเสริมว่าคนเหล่านี้ต้องจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของกองทัพพม่า ชาวบ้านอีกรายกล่าวว่าหมู่บ้านบางแห่งระหว่างเมืองกุตก่ายและเมืองล่าเสี้ยว เต็มไปด้วยชาวจีน

“พวกเขาพูดภาษาจีน และในบางหมู่บ้านพวกเขาใช้แต่เงินหยวน เมื่อการสู้รบเข้ามาใกล้ พวกเขาไม่ได้กลับไปแผ่นดินใหญ่ แต่จะย้ายลงไปที่เมืองและหมู่บ้านอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในรัฐชานตอนใต้พร้อมกับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศคนอื่นๆ” ชาวเมืองล่าเสี้ยว กล่าว

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. MNDAA ประกาศว่าจะปกป้องการลงทุนและพลเมืองจีนระหว่างการปะทะกันในรัฐชานตอนเหนือ

“ตอนนี้รัฐบาลทหารดำเนินการโจมตีทางอากาศบ่อยครั้งในพื้นที่รัฐชานตอนเหนือ ไม่มีใครสามารถปกป้องประชาชนจากการทิ้งระเบิดได้ จึงเป็นเหตุให้สถานทูตจีนออกคำแถลงนี้” นักวิเคราะห์การเมือง ระบุ.