เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่บังกลาเทศเผยว่าได้เข้าเก็บกู้ศพของผู้ลี้ภัยโรฮิงญา 34 คน ที่หลบหนีออกจากพม่าแต่กลับจมน้ำเสียชีวิตหลังจากเรือที่โดยสารเกิดจมลงขณะข้ามแม่น้ำไปบังกลาเทศ
เรือของโรฮิงญากลุ่มนี้ล่มลงเมื่อวันอังคาร (6) ที่ในเบื้องต้นพบเพียง 10 ศพ รวมทั้งเด็กเล็ก แต่หลังจากนั้นมีศพเกยตื้นมากขึ้น ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 34 คน
ตำรวจระบุว่าชาวโรฮิงญากลุ่มนี้หลบหนีออกจากหมู่บ้านในรัฐยะไข่ และเรือขนาดเล็กของพวกเขาล่มลงในแม่น้ำนาฟ ใกล้เกาะชาห์ปารี ของบังกลาเทศ
ผู้บริหารเมืองเทคนาฟ ที่เป็นเมืองชายแดนของบังกลาเทศ ระบุว่าเรือลำเกิดเหตุบรรทุกชาวโรฮิงญามาจากพม่า ส่วนสมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าวว่าศพของผู้เสียชีวิตถูกฝังแล้ว
“ชาวโรฮิงญากำลังหลบหนีเอาชีวิตรอดจากพม่า” เจ้าหน้าที่บังกลาเทศ กล่าว และว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญอย่างน้อย 1,000 คน หนีภัยสงครามในรัฐยะไข่ของพม่ามายังบังกลาเทศ
การปะทะกันส่งผลกระทบทั่วรัฐยะไข่ นับตั้งแต่กองทัพอาระกันเปิดฉากโจมตีกองกำลังของรัฐบาลทหารในเดือน พ.ย. ที่ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 สิ้นสุดลง
บังกลาเทศเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ลี้ภัยโรฮิงญาราว 1 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่หลบหนีจากรัฐยะไข่ในปี 2560 หลังจากกองทัพดำเนินการปราบปราม ที่ขณะนี้เป็นประเด็นของการสอบสวนข้อหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลสหประชาชาติ
อับดุล คาลัม อายุ 35 ปี ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา เดินทางถึงบังกลาเทศด้วยเรืออีกลำหนึ่งในวันพุธ (7) หลังจากหลบหนีจากเมืองหม่องดอ รัฐยะไข่ และกล่าวว่ามีคนอีกหลายพันคนกำลังพยายามหลบหนี
“กองทัพอาระกันกำลังฆ่าพวกเขา พวกเขาต้องการขับไล่เราออกจากยะไข่ ผมเห็นการนองเลือดมากมาย พวกเขากำลังฆ่าโรฮิงญา” อับดุล คาลัม กล่าว
เจ้าหน้าที่บังกลาเทศกล่าวว่า การเก็บกู้ศพล่าช้าเนื่องจากเหตุความไม่สงบในบังกลาเทศ
“เราไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราไปยังจุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการปราบปรามการปะทะทางการเมือง” เจ้าหน้าที่บังกลาเทศ ระบุ.