รอยเตอร์ - สื่อทางการพม่ารายงานว่ารัฐบาลทหารขยายเวลาการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน ในวันพุธ (31) ขณะที่รัฐบาลทหารกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นในหลายแนวรบ และเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤต
สำนักข่าวเมียวดีที่ดำเนินการโดยกองทัพรายงานว่า สภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติได้ขยายเวลาการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินออกไป เพื่อให้กองทัพมีเวลามากขึ้นในการรวบรวมข้อมูลประชากรสำหรับบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่รัฐบาลทหารระบุว่าจะจัดการเลือกตั้งในปีหน้า
กองทัพประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี หลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจในการรัฐประหารเดือน ก.พ.2564 ที่โค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี และก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศที่นำไปสู่การปราบปรามของกองทัพอย่างรุนแรง
นับแต่นั้นรัฐบาลทหารได้ขยายเวลาออกไปทุก 6 เดือน เนื่องจากขบวนการประท้วงได้แปรเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธที่ขยายวงกว้าง และในตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของนายพล
“มีความจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพเนื่องจากกิจกรรมก่อการร้ายที่ยังดำเนินอยู่” สื่อของรัฐกล่าวถึงการขยายเวลาล่าสุด โดยอ้างถึงการต่อต้านด้วยอาวุธ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ความรับผิดชอบทั้งหมดของประธานาธิบดีพม่าถูกส่งมอบให้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำคณะรัฐบาลทหาร หลังจากประธานาธิบดีต้องพักงานเนื่องจากเจ็บป่วยเป็นเวลานาน
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เคยให้คำมั่นหลายครั้งว่าจะจัดการเลือกตั้งแบบหลายพรรค โดยกล่าวในเดือน มิ.ย.ว่า การเลือกตั้งจะจัดขึ้นในปี 2568
กำหนดเวลาการเลือกตั้งครั้งก่อนถูกเลื่อนออกไป โดยอ้างเหตุผลของความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่ายได้กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลทหารไม่มีแผนที่จะครองอำนาจยาวนาน
กองทัพเข้ายึดอำนาจหลังจากมีข้อร้องเรียนเรื่องการทุจริตในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน พ.ย.2563 ที่พรรคของอองซานซูจีชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่พรรคปฏิเสธ และกลุ่มตรวจสอบการเลือกตั้งไม่พบหลักฐานการทุจริตแต่อย่างใด.
