xs
xsm
sm
md
lg

สื่อพม่าเผยประธานาธิบดีป่วยหนัก เสี่ยงกระทบการปกครองของรัฐบาลทหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีเพียงในนามของพม่าที่อยู่ภายใต้การปกครองของทหารกำลังป่วยหนัก สื่อของทางการพม่ารายงานวันนี้ (19) ในคำแถลงที่เกิดขึ้นได้ยากเกี่ยวกับสุขภาพของบุคคลสำคัญของรัฐบาลทหารเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่การประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งกำลังดำเนินอยู่จะสิ้นสุดลง

มี้น ส่วย วัย 73 ปี อดีตนายทหาร เคยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในสมัยรัฐบาลกึ่งพลเรือน และเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวหลังกองทัพพม่าเข้ายึดอำนาจในการรัฐประหารปี 2564 ก่อนมอบอำนาจให้กองทัพ

หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ระบุว่า มี้น ส่วย เจ็บป่วยจากอาการเคลื่อนไหวช้าลง และภาวะทุพโภชนาการ

“จากผลตรวจทางการแพทย์ เขากำลังทุกข์ทรมานจากความผิดปกติทางระบบประสาทและโรคปลายประสาทอักเสบ” หนังสือพิมพ์ระบุ และเสริมว่า เขายังเข้ารับการผ่าตัดตาทั้งสองข้างด้วย

แม้ว่ามี้น ส่วย จะเป็นเพียงหุ่นเชิด แต่สุขภาพของเขาอาจก่อให้เกิดปัญหาทางรัฐธรรมนูญต่อรัฐบาลทหารในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังดิ้นรนในการปกครอง และต้องอาศัยเขาในการลงนามกฤษฎีกาและเพื่อสร้างความชอบธรรมในการปกครองประเทศ

กองทัพกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจในขณะที่กลุ่มต่อต้านติดอาวุธได้เปรียบในการต่อสู้ในหลายพื้นที่ของประเทศ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอย ซึ่งสร้างความกดดันให้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร

ด้วยไม่สามารถควบคุมการต่อต้านจากกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยได้ รัฐบาลทหารจึงขยายเวลาการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินหลายหน ที่ล่าสุดมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 ก.ค. โดยแต่ละครั้งได้ให้คำมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในอนาคต

มี้น ส่วย กลายเป็นประธานาธิบดีหลังจากประธานาธิบดี วิน มี้น ถูกจับกุมตัวในการรัฐประหารพร้อมด้วยอองซานซูจี ซึ่งทั้งคู่ยังคงถูกควบคุมตัวจนถึงตอนนี้

ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ นักวิเคราะห์พม่าจากกลุ่ม Crisis Group กล่าวว่า การไม่มีรองประธานาธิบดี ทำให้ไม่มีผู้สืบทอดตำแหน่งที่ชัดเจน หากมี้น ส่วย ต้องลงจากตำแหน่ง

“โดยพฤตินัยแล้ว มิน อ่อง หล่าย จะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่เขาไม่สามารถใส่ชื่อตัวเองเป็นประธานาธิบดีได้ นี่อาจเกี่ยวข้องกับการหารือเรื่องเลือกตั้งกันอีกครั้ง” ฮอร์ซีย์ กล่าว

สื่อของรัฐระบุว่า อาการของมี้น ส่วย ยังไม่ดีขึ้นแม้จะได้รับการรักษาทางการแพทย์มาหลายครั้งแล้วก็ตาม รวมถึงการรักษาในสิงคโปร์

“เนื่องจากเขาไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันตามปกติได้ รวมถึงการทานอาหาร จึงจัดให้มีการรักษาพยายามอย่างใกล้ชิด” รายงานระบุ.
กำลังโหลดความคิดเห็น