xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่งเจดีย์เมืองพุกามเงียบเหงา ชาวเมืองโอดขาดรายได้ เหตุสู้รบทำแหล่งมรดกโลกไร้นักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - เมืองพุกาม แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี กลายเป็นพื้นที่แห่งความสงบท่ามกลางสงครามกลางเมืองดุเดือดของประเทศ แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวหดหายไป และคนท้องถิ่นต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ

ทุ่งเจดีย์แห่งเมืองพุกามกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวหลังจากรัฐบาลเผด็จการทหารคลายอำนาจที่ยึดกุมมานานหลายทศวรรษลงในปี 2554

พม่ากลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางที่กำลังมองหาสถานที่ที่ห่างไกลจากนักท่องเที่ยวแบกเป้ที่ปรากฏตัวอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของพม่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด และในเดือน ก.พ.2564 กองทัพพม่ายึดอำนาจอีกครั้ง ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งไปทั่วประเทศ

ในปีหลังการรัฐประหาร นักท่องเที่ยวต่างชาติราว 200,000 คน เดินทางเยือนพม่า ตามตัวเลขที่กระทรวงการท่องเที่ยวของรัฐบาลทหารระบุ แต่ 5 ปีก่อนหน้านั้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 3.4 ล้านคน

พื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตรของเมืองพุกาม เต็มไปด้วยเจดีย์ วัด ภาพจิตรกรรมและประติมากรรม ที่บางแห่งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 11-13

บนเนินเขาที่ปกติแล้วจะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เฝ้าชมเงาทอดยาวยามเย็นเหนือเมืองเก่า และคนขายของที่ระลึกที่มีจำนวนมากพอๆ กับผู้มาเยือน แต่เวลานี้ โรงแรมและร้านอาหารหลายแห่งในเมืองปิดตัว ส่วนไกด์และคนขายของก็ตกงาน

“ผมคิดว่าผู้คนไม่ต้องการใช้จ่ายมากนัก พวกเขาไม่ค่อยเดินทางและซื้อของจากเรา บางวันเราไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว” คนขายของรายหนึ่ง กล่าว

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบอกว่าบรรยากาศอีกฝั่งของแม่น้ำอิรวดีนั้นน่ากังวลกว่ามาก

พื้นที่ดังกล่าวมีการปะทะเกิดขึ้นเป็นระยะระหว่างกองทัพและกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) โดยชาวเมืองพุกามกล่าวว่าพวกเขามักจะได้ยินเสียงปืนจากอีกฟากของแม่น้ำ

ในขณะที่มาตรการคว่ำบาตรเริ่มส่งผล และค่าเงินจ๊าตดิ่งลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ รัฐบาลทหารที่ถูกโดดเดี่ยวระบุว่าพวกเขาต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาพม่าเพื่อนำเงินของพวกเขามาใช้จ่ายในประเทศ

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการท่องเที่ยวและโรงแรมของรัฐบาลทหารระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนในปี 2566 มีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 200,000 คน ในปีก่อนหน้า ขณะที่ไทยที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านมีนักท่องเที่ยวเยือนราว 28 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกัน

สื่อของรัฐระบุว่า คนที่เดินทางเยือนพม่าในปี 2566 ส่วนใหญ่มาจากจีนและไทย

แต่ในเดือน ก.ย.2566 รัฐบาลทหารได้วิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังของจีนที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการหลอกลวงว่าทำให้ชื่อเสียงของพม่าเสื่อมเสีย

ภาพยนตร์เรื่อง “No More Bets” บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ที่ถูกค้ามนุษย์ไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถูกบังคับให้ทำงานเป็นนักต้มตุ๋นออนไลน์ให้องค์กรแห่งหนึ่ง

แม้ภาพยนตร์จะไม่ได้เอ่ยชื่อพม่า แต่สถานที่คล้ายกับพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ ที่จีนระบุว่าพลเมืองของตนมักถูกล่อลวงหรือถูกค้ามนุษย์ และบังคับให้ทำงานหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติ

รัฐบาลทหารยังต้องการนักเดินทางจากรัสเซียที่เป็นพันธมิตรหลัก และกล่าวว่าพวกเขากำลังดำเนินการเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินด้วย Mir ที่เป็นระบบการชำระเงินของรัสเซีย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีระบุว่าในช่วง 3 วันที่อยู่ในเมืองพุกาม เขาไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติแม้แต่คนเดียว

เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพุกามกล่าวว่า เขาสามารถจ้างพนักงานได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเนื่องจากความยากลำบาก

“อย่างน้อยร้านของเรายังคงเปิดได้ แต่ร้านค้าอื่นๆ อีกหลายแห่งปิดไปแล้วเพราะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าและเงินเดือนพนักงานได้ แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย” เจ้าของร้านอาหารระบุ

“ถึงสถานการณ์จะไม่ดี แต่อย่างน้อยเรายังมีบ้านให้อยู่ มีอาหารให้กิน ฉันรู้สึกได้ว่าคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่นกำลังเดือดร้อน ความปรารถนาเดียวของฉันคือขอให้ประเทศและงานของเราดีขึ้น นั่นคือความปรารถนาที่ทุกคนต้องการให้เป็นจริง” คนขายดอกไม้ที่เจดีย์แห่งหนึ่งกล่าว.














กำลังโหลดความคิดเห็น