MGR ออนไลน์ - รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยเป้าหมายที่จะมีรถไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนนของประเทศที่ 800,000 คันภายในปี 2573 ภายใต้นโยบายการพัฒนารถไฟฟ้าที่เพิ่งประกาศไปเมื่อไม่นานนี้ ตามการรายงานของสื่อกัมพูชา
สำนักข่าวขแมร์ไทม์สรายงานว่า นโยบายแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายานพาหนะไฟฟ้า 2567-2573 จะช่วยปรับปรุงสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางพลังงาน และการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับเทรนด์โลกและภูมิภาคที่มุ่งสู่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นโยบายนี้จะช่วยพัฒนาภาคส่วนรถไฟฟ้าในกัมพูชาและการใช้งานยานพาหนะไฟฟ้า นอกเหนือไปจากการดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ภาคส่วนนี้
โฆษกกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกล่าวว่า ยานพาหนะไฟฟ้าจะนำมาซึ่งประโยชน์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความปลอดภัย พลังงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่
“นโยบายนี้เป็นเครื่องมือของรัฐบาลกัมพูชาที่จะส่งเสริมการพัฒนายานพาหนะไฟฟ้าในกัมพูชา” โฆษกกระทรวงโยธาธิการ ระบุ
รายงานของกระทรวงระบุว่า จนถึงเดือน มิ.ย.2567 กัมพูชาจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1,614 คัน ประกอบด้วยบีวายดี 658 คัน โตโยต้า 261 คัน และเทสลา 186 คัน ที่เป็น 3 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีสกูตเตอร์ไฟฟ้าจดทะเบียน 914 คัน และรถสามล้อไฟฟ้า 440 คัน
“การจดทะเบียนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกวัน สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนมีทัศนคติเชิงบวกและแสดงความสนใจอย่างมากต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในกัมพูชา” โฆษกกระทรวงกล่าว และว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเทรนด์ใหม่ เนื่องจากประโยชน์ต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายรายวันที่ต่ำลง ความสะดวกสบาย และระดับมลพิษต่ำ
ปัจจุบัน กัมพูชามีสถานีชาร์จไฟฟ้า 18 แห่งทั่วประเทศ
หลังจากรัฐบาลกัมพูชาออกนโยบายเพื่อเร่งการพัฒนาภาคยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทบีวายดีได้แสดงความตั้งใจที่จะตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในกัมพูชา
รองประธานหอการค้ากัมพูชากล่าวว่า นโยบายของรัฐจะส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ สร้างงานในภาคส่วนการผลิต จำหน่าย และการบำรุงรักษา
“การเปิดตัวนโยบายนี้จะช่วยดึงดูดการลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และปรับประเทศให้สอดคล้องกับเทรนด์ของภูมิภาคและของโลกที่มุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว” รองประธานหอการค้ากัมพูชาระบุ.