MGRออนไลน์ - กัมพูชาตั้งชื่อถนนหลักเส้นหนึ่งในกรุงพนมเปญเป็น ‘สีจิ้นผิง บูเลอวาร์ด’ เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีของจีน สำหรับคุณูปการสำคัญต่อการพัฒนากัมพูชา
นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และหวัง เหวินเทียน เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา ได้เข้าร่วมในพิธีตั้งชื่อถนน ที่จัดขึ้นในวันอังคาร (28) ที่วิมานสันติภาพ หรือสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตามการระบุของสถานทูตจีน
“นี่เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แข็งแกร่ง และถูกต้อง” หวัง เหวินเทียน กล่าว
“ฝ่ายจีนยินดีที่ได้ร่วมมือกับกัมพูชาสานต่อเส้นทางอันรุ่งโรจน์ในการรักษามรดกแห่งมิตรภาพที่แข็งแกร่งนี้ สร้างอนาคตอันสดใส และสดใสยิ่งขึ้นสำหรับชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและกัมพูชาในยุคใหม่” เอกอัครราชทูตจีน ระบุ
สีจิ้นผิง บูเลอร์วาร์ด ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักในชื่อถนนวงแหวนสายที่ 3 ที่ใช้งบประมาณก่อสร้าง 273 ล้านดอลลาร์ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีนและการสนับสนุนจากรัฐบาลกัมพูชา สำนักข่าวขแมร์ไทม์ส รายงาน
ทั้งนี้ ผู้นำกัมพูชาได้โพสต์ข้อความลงในหน้าเพจเฟซบุ๊กของตนเองว่า จีนอนุมัติการเปลี่ยนชื่อถนนดังกล่าวที่มีความหมายอย่างมากต่อมิตรภาพที่แข็งแกร่งระหว่างกัมพูชาและจีน
“ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและจีนมีมายาวนานและเติบโตจนแยกจากกันไม่ได้ ความสัมพันธ์นี้รวบรวมคุณค่าของความไว้วางใจซึ่งกันและกันโดยเฉพาะความไว้วางใจทางการเมือง ความช่วยเหลือของจีนไม่เพียงช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในกัมพูชา แต่ยังเสริมสร้างความเป็นอิสระทางการเมืองของประเทศด้วย” ผู้นำเขมร ระบุ
ถนนสีจิ้นผิง บูเลอวาร์ด ทอดยาวเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4 ใน อ.ปอเซนเจย ของพนมเปญ ไปยังทางหลวงหมายเลข 1 ในเขตเกียนสวาย ของ จ.กันดาล งานก่อสร้างถนนดำเนินการโดยบริษัทเซี่ยงไฮ้ คอนสตรัคชั่น ของจีน เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2562 ถนนสายนี้มีความยาว 15 กิโลเมตรในเขตพนมเปญ และ 38 กิโลเมตรในเขต จ.กันดาล
การประกาศตั้งชื่อถนนมีขึ้นไม่กี่วันก่อนลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางเยือนกัมพูชา
หลังจากเข้าร่วมการประชุมแชงกรีลา ไดอะล็อก ในสิงคโปร์ สัปดาห์นี้ ออสตินจะเดินทางเยือนกรุงพนมเปญเป็นที่หมายถัดไป ซึ่งเขามีกำหนดพบหารือกับฮุน มาเนต ตามการรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส
ฮุน มาเนต ที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปีก่อน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ และยังศึกษาที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ซึ่งทำให้หลายคนมองว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จะปรับปรุงดีขึ้นหลังจากหันไปใกล้ชิดจีน
คำแถลงที่ออกโดยเพนตากอนเมื่อสัปดาห์ก่อนระบุว่า ออสตินหวังที่จะต่อยอดจากการประชุมที่เขามีกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของกัมพูชา เมื่อครั้งที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดรัฐมนตรีกลาโหมของอาเซียนในเดือน พ.ย.2565
สหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์การขยายฐานทัพเรือเรียมใกล้กับท่าเรือสีหนุวิลล์ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน โดยอ้างว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวดูเหมือนเป็นการตั้งฐานทัพจีนอย่างถาวร ที่จะทำให้ปักกิ่งสามารถขยายอำนาจไปทั่วอ่าวไทยได้
กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าจีนกำลังสร้างฐานทัพถาวร โดยระบุว่า การกระทำดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การจัดการซ้อมรบทางเรือบ่อยครั้งระหว่างกองทัพเรือของสองประเทศไม่ได้ทำให้ความกังวลของผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้บรรเทาเบาบางลง.