MGR Online - ชาวบ้านแตกตื่น หลังปลานับพันตัวในหนองน้ำขนาดใหญ่กลางเมืองมะกวย พม่า ที่เพิ่งมีชื่อติดบัญชี 15 เมืองที่อากาศร้อนที่สุดในโลกของพม่า เกิดลอยแพตายโดยไม่รู้สาเหตุหลังฝนตกหนักไม่ถึง 3 วัน
เช้าวานนี้ (25 พ.ค.) มีผู้พบเห็นปลาหลากหลายชนิดนับพันตัว เกิดลอยตายขึ้นมาเป็นแพบนผิวน้ำของหนองน้ำกั่นต่า ในเมืองมะกวย ภาคมะกวย ประเทศพม่า สร้างความแตกตื่นตกใจแก่ชาวบ้านมะกวยจำนวนมากที่ผ่านไปมา ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ประจำเมืองมะกวยต้องรีบมาช่วยกันเก็บซากปลาที่ตายไปฝังกลบ ซึ่งต้องใช้เวลานานจนถึง 14.00 น. จึงสามารถเก็บได้หมด
หนองน้ำกั่นต่าเป็นหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ใจกลางเมืองมะกวย ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านขวาของถนนอะทะก๊ะ หมายเลข 1 และถูกใช้เป็นพื้นที่รับน้ำซึ่งระบายออกมาจากบ้านเรือนประชาชนเกือบทุกหลังในเมืองมะกวย
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ในเมืองมะกวยได้เกิดฝนตกหนัก ถัดจากนั้นไม่ถึง 3 วัน ก็เกิดเหตุปลาในหนองน้ำกั่นต่าตายลอยขึ้นมาเป็นแพดังกล่าว ชาวบ้านคาดว่าสาเหตุที่ปลาตายเป็นเพราะได้รับพิษจากน้ำเสียตามบ้านที่ไหลมาตามท่อระบายน้ำตรงมาลงยังหนองน้ำกั่นต่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ปลาตาย โดยอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบรายละเอียดของเจ้าหน้าที่เมืองมะกวย
เมืองมะกวยเพิ่งถูกจัดเข้าเป็น 1 ในบัญชี 15 เมืองที่มีอากาศร้อนที่สุดในโลก เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการบันทึกอุณหภูมิสูงสุดของเมืองมะกวยไว้เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 29 เมษายน อยู่ที่ 46.1 องศาเซลเซียส
แม้เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำอิระวดีบริเวณใจกลางประเทศพม่า แต่ภาคมะกวยกลับเป็นภาคที่มีภูมิประเทศที่แห้งแล้ง และมีอากาศร้อนที่สุดของพม่า
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) และนายกรัฐมนตรีพม่า เพิ่งเดินทางไปยังเมืองมะกวย และเข้าประชุมร่วมกับมุขมนตรีและผู้บริหารของทุกหน่วยงานในมะกวย โดย พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่ายได้มอบนโยบายให้ทุกเมืองในภาคมะกวยต้องเร่งปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยกำหนดเป็นเป้าหมายให้จากนี้ไปทุกเมืองของมะกวยต้องมีพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่าเมืองละ 2 เอเคอร์ หรือ 5.6 ไร่.