MGR ออนไลน์ - ผู้เข้าร่วมการประชุมปรึกษาหารือที่จัดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนาม ได้เสนอแนะว่าทางการกรุงฮานอยควรขอให้พนมเปญชะลอโครงการขุดคลองเพื่อหารือเพิ่มเติม ท่ามกลางความวิตกกังวลของเวียดนามเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
การก่อสร้างคลองฟูนันเตโช ระยะทาง 180 กิโลเมตร เชื่อมต่อกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชากับอ่าวไทย มีแผนที่จะเริ่มขุดในปลายปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 4 ปี
โครงการคลองดังกล่าวจะครอบคลุมถึงส่วนหนึ่งของแม่น้ำโขง ที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในเวียดนามเกี่ยวกับผลกระทบต่อท้ายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวของเวียดนาม เล แอ็ง ต่วน นักวิทยาศาสตร์ชาวเวียดนามระบุว่า คลองอาจลดระดับการไหลของแม่น้ำได้มากถึง 50% เมื่อถึงเวียดนาม
เล แอ็ง ต่วน กล่าวในที่ประชุมที่จัดขึ้นในเมืองเกิ่นเทอ ที่อยู่ในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงว่า เวียดนามต้องการเวลามากขึ้นสำหรับการปรึกษาหารือเพื่อปกป้องพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ที่เป็นที่อยู่อาศัยของประชากร 17.4 ล้านคน
ผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งจากกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทกล่าวว่า เวียดนามต้องขอรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากกัมพูชา
ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญยังเรียกร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกัน โดยระบุว่า แม้สหรัฐฯ จะเคารพอธิปไตยของกัมพูชาในการตัดสินใจเรื่องการพัฒนาและการกำกับดูแลกิจการภายใน แต่ประชาชนชาวกัมพูชาและประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากความโปร่งใสในการดำเนินการใดๆ ก็ตามที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของน้ำและการเกษตรในภูมิภาค
“เราขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเพื่อให้รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม และมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงและประเทศสมาชิกมีความเข้าใจ ประเมิน และเตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบที่อาจเป็นไปได้ของโครงการ” โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุ
ด้านกัมพูชาระบุว่า โครงการนี้ได้รับการรับรองจากทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว ที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแล้ว
ทั้งนี้ ทองลุน สีสุลิด เพิ่งเดินทางเยือนกรุงพนมเปญ และระหว่างการพบหารือกับฮุน เซน ประธานสภาสูงและอดีตนายกรัฐมนตรี เขาได้ถูกขอให้แสดงการสนับสนุนโครงการขุดคลองดังกล่าว
สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชาที่สนับสนุนรัฐบาลรายงานว่า ประธานประเทศลาวได้ประกาศการสนับสนุนโครงการอย่างไม่ลังเล
ลาวและกัมพูชาเป็นพันธมิตรกับเวียดนามมายาวนาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ทั้งสองประเทศเอนเอียงไปทางจีนมากขึ้น
เวียดนามได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการนี้หลายครั้ง และในเดือนนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามได้เรียกร้องให้กัมพูชาให้ข้อมูล และการประเมินผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำและความสมดุลทางนิเวศวิทยาของพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาตอบสนองต่อคำร้องดังกล่าวว่า พนมเปญไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกิจการอาเซียนกล่าวกับสำนักข่าวขแมร์ไทม์ส ว่า กัมพูชาไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารใดๆ ต่อเวียดนามเกี่ยวกับการศึกษาและการก่อสร้างคลองฟูนันเตโช เนื่องจากกัมพูชาได้ยื่นเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการศึกษาคลองที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำไปยังคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแล้ว
“ทางการเวียดนามสามารถขอเข้าถึงไฟล์เหล่านั้นได้” เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกัมพูชาระบุ และทางการกัมพูชายืนกรานว่าคลองจะไม่ขัดขวางการไหลของแม่น้ำโขง
คลองฟูนันเตโช จะได้รับการพัฒนาโดยบริษัทจีน ด้วยทุนราว 1,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคลองสายนี้จะทำให้การค้าขายสามารถไหลตรงไปยังท่าเรือกัมพูชาได้มากขึ้น โดยข้ามเวียดนามไป รัฐบาลกัมพูชากล่าวว่าคลองจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและลดการพึ่งพาท่าเรือเวียดนาม
นอกจากนี้ ยังระบุว่าโครงการดังกล่าวจะนำประโยชน์ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจมาสู่ประชาชนชาวกัมพูชา 1.6 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ตามริมคลองสายนี้
นอกจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจแล้ว นักวิเคราะห์กล่าวว่า เวียดนามยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านความมั่นคงด้วย โดยระบุว่าคลองจะทำให้เรือของกองทัพเรือจีนเดินทางไปยังต้นน้ำจากอ่าวไทยได้ และฐานทัพเรือเรียมที่จีนพัฒนาขึ้นบนชายฝั่งกัมพูชาอยู่ใกล้กับชายแดนเวียดนาม
ฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิเสธความคิดดังกล่าว โดยฮุนเซนยืนยันว่ากัมพูชาและเวียดนามเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและมีความร่วมมือที่ดีในทุกภาคส่วน
แต่เวียดนามมีข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับหมู่เกาะบางแห่งในทะเลจีนใต้ และกำลังจับตาดูการมีส่วนร่วมของจีนในภูมิภาคด้วยความสงสัย
เวียดนามมีพรมแดนทางบกร่วมกันกับกัมพูชา ระหว่างปี 2520-2521 มีการสู้รบระหว่างเขมรแดงของกัมพูชากับกองทหารของเวียดนามในช่วงที่เรียกว่าสงครามชายแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ ที่นำไปสู่การรุกรานของเวียดนามและการตั้งรัฐบาลที่นิยมเวียดนามขึ้นในกัมพูชา
นักรัฐศาสตร์ชาวเวียดนามจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย กล่าวว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนฝั่งตะวันตกของเวียดนามควรได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากภัยคุกคามจากความท้าทายด้านความมั่นคงที่ต่างไปจากเดิม ที่ส่วนใหญ่เกี่ยวกับพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
“การสูญเสียความสามารถของแม่น้ำโขงในการรักษาการผลิตอาหารขนาดใหญ่จะสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลต่อความมั่นคงในภาคใต้ของเวียดนาม จากมุมมองของผม พรมแดนฝั่งตะวันตกกำลังมีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน แต่เวียดนามถูกเบี่ยงเบนความสนใจด้วยปัญหาทางทะเลในฝั่งตะวันออก หรือทะเลจีนใต้” นักรัฐศาสตร์ ระบุ.