เอพี - เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งจากอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตกค้างจากสงครามหลายทศวรรษของกัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และได้รับบาดเจ็บ 2 คน ตามการเปิดเผยของหัวหน้าหน่วยงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดของประเทศ
ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอื่นๆ ประมาณ 4 ล้านถึง 6 ล้านลูก คาดว่ากระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ชนบทของกัมพูชาในช่วงเกือบ 3 ทศวรรษของสงครามและความโกลาหลที่สิ้นสุดลงในปี 2541
เมื่อวันเสาร์ (20) สมาชิก 4 คนของครอบครัวหนึ่งใน จ.มณฑลคีรี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศที่เข้าไปเก็บยางไม้ในป่า เสียชีวิตหลังเกิดเหตุระเบิดจากเครื่องยิงจรวด B-41 ที่เชื่อว่ามีอายุราวทศวรรษ 1980 ตามการระบุของเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา
เขากล่าวว่า ไม่ทราบว่าอะไรทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวทำงาน ที่ส่งผลให้เด็กหญิงวัย 6 ขวบ และแม่ของเด็กจากครอบครัวเดียวกันได้รับบาดเจ็บ
เฮง รัตนา ยังกล่าวว่า ชายวัย 47 ปี ที่เป็นพ่อค้าทรายที่ใช้ในการก่อสร้าง เสียชีวิตในวันอาทิตย์ (21) ในเมืองสีหนุวิลล์ หลังจากกระสุนปืนใหญ่ขนาด 105 มม. เกิดระเบิดขึ้น
แม้กัมพูชาจะดำเนินโครงการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างกระตือรือร้น แต่อาวุธอันตรายจำนวนมากยังคงมีอยู่ในประเทศซึ่งเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน โดยกัมพูชารายงานว่ามีพื้นที่ต้องสงสัยอันตราย 7,392 จุด ซึ่งรวมเป็นพื้นที่ทั้งหมด 681 ตารางกิโลเมตร ณ สิ้นปี 2565
หน่วยงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดและช่วยเหลือเหยื่อของกัมพูชาระบุว่า มีผู้บาดเจ็บล้มตาย 65,043 คน โดยเป็นผู้เสียชีวิต 19,822 คน จากทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดอื่นๆ จากสงคราม นับตั้งแต่เดือน ม.ค.2522 ถึงเดือน ก.พ.2567
ทั้งนี้ จำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายในช่วงปี 2564-2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 37 คนต่อปี ซึ่งลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มโครงการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
นักเก็บกู้ระเบิดในกัมพูชาเป็นหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์มากที่สุดในโลก และนักเก็บกู้หลายพันคนถูกส่งไปทำงานในแอฟริกาและตะวันออกกลางในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ และเมื่อปีที่ผ่านมา กัมพูชาได้เริ่มฝึกนักเก็บกู้ทุ่นระเบิดจากยูเครน ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดและอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ ที่ยังไม่ระเบิดจำนวนมาก.