MGR Online - กองทัพพม่าใช้คำ "อ่องเซยะ" แปลว่า "ชัยชนะสำเร็จ" เป็นชื่อปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่เมืองเมียวดี นำทหาร 3 กองพล จากรัฐมอญ กะเหรี่ยง รัฐชานเป็นกำลังหลัก ล่าสุด ขบวนรถทหารที่เคลื่อนจากเมาะละแหม่งตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ ยังถูกตรึงอยู่เชิงเขาดอนะฟากตะวันตก ห่างเมียวดีประมาณ 35 กิโลเมตร
เช้าวันนี้ (18 เม.ย.) เพจทางการของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) รายงานสถานการณ์การสู้รบบนทางหลวงเอเชียหมายเลข 1 (AH1) ช่วงจากเมืองกอกะเร็กเพื่อจะมายังเมืองเมียวดี ว่า กำลังทหารของกองทัพพม่าที่เดินทางมากับขบวนรถหุ้มเกราะและรถลำเลียงพลหลายสิบคัน ซึ่งเป็นกำลังหลักสำหรับปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่เมืองเมียวดี ยังคงถูกตรึงไว้ที่บ้านเกาะนวย เชิงเขาฟากตะวันตกของเทือกเขาดอนะ หรือเทือกเขาถนนธงชัย ห่างจากตัวเมืองเมียวดีประมาณ 35 กิโลเมตร
โดยกำลังพลของฝ่ายกะเหรี่ยงซึ่งเป็นการสนธิกำลังกันระหว่างทหารกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) องค์การป้องกันชาติกะเหรี่ยง (KNDO) และกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเงา (PDF) ได้ร่วมกันซุ่มโจมตีขบวนรถทหารของกองทัพพม่าที่เคลื่อนตัวมาตามทางหลวง AH1 จากกองบัญชาการกองทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่เมืองเมาะละแหม่ง ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน แต่หลังจากเดินทางได้เพียง 2 วัน ในวันที่ 12 เมษายน กำลังเสริมของกองทัพพม่าได้ถูกตรึงคาไว้ที่บ้านเกาะนวย จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถข้ามเทือกเขาดอนะ เพื่อไปพื้นที่เมืองเมียวดีได้
โพสต์ในเพจของ KNU เช้าวันนี้ ระบุว่ากองทัพพม่าพยายามเปิดทางให้กำลังพลสามารถรุกคืบหน้า ด้วยการใช้อาวุธหนักและอากาศยานบินมาทิ้งระเบิดโจมตีกำลังผสม KNLA-KNDO-PDF แต่อาวุธหนักเหล่านั้น กลับไปทำร้ายชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาดอนะ จนทำให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ ล้มตาย
มีรายงานว่า นับแต่กองกำลังผสม KNLA-KNDO-PDF สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเมียวดีไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน โดยค่ายผาซอง ที่ตั้งของกองพันทหารราบที่ 275 ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเมียวดีไปทางทิศตะวันตกบนทางหลวง AH1 ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพพม่าที่ต้องเสียให้กองกำลังผสมของกะเหรี่ยง ทำให้มีทหารพม่าจากค่ายผาซองประมาณ 200 นาย ถอนกำลังไปตั้งมั่นอยู่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ในฝั่งเมียวดี และกำลังพลเหล่านี้ยังไม่ยอมวางอาวุธ เพราะหวังรอเป็นกำลังเสริมให้กับปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่เมืองเมียวดีของกองทัพพม่า
ในการทวงคืนพื้นที่เมืองเมียวดี กองทัพพม่าได้ตั้งชื่อปฏิบัติการครั้งนี้ว่า "ปฏิบัติการอ่องเซยะ" (အောင်ဇေယျစစ်ဆင်ရေး) มีความหมายว่า "ชัยชนะสำเร็จ" ใช้กำลังทหารหลักมาจาก 3 กองพล ใน 3 รัฐ ประกอบด้วย กองพลที่ 55 จากเมืองกะลอ รัฐชานใต้ กองพลที่ 44 จากเมืองไจก์โท รัฐมอญ และกองพลที่ 22 จากเมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง
พล.อ.อาวุโส โซวิน รองประธานสภาบริหารแห่งรัฐ(SAC) และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพพม่า ผู้เป็นเบอร์ 2 รองจาก พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้มาเป็นผู้ควบคุมปฏิบัติการอ่องเซยะด้วยตัวเอง โดย พล.อ.อาวุโส โซวิน คอยสั่งการอยู่ในฐานบัญชาการของกองทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่เมืองเมาะละแหม่ง.