รอยเตอร์ - ศาลเวียดนามได้พิพากษาตัดสินประหารชีวิต เจื่อง หมี ลาน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จากบทบาทของเธอในคดีฉ้อโกงทางการเงินมูลค่า 304 ล้านล้านด่ง (ราว 12,500 ล้านดอลลาร์) ที่ถือเป็นคดีฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ ตามการรายงานของสื่อรัฐ
การพิจารณาคดีฉ้อโกงครั้งมโหฬาร ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. และสิ้นสุดเร็วกว่าที่วางแผนไว้ ถือเป็นหนึ่งในผลอันน่าทึ่งของการรณรงค์ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่เหวียน ฝู จ่อง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ให้คำมั่นว่าจะปราบปรามให้สิ้น
เจื่อง หมี ลาน ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Holdings Group ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง ติดสินบน และละเมิดกฎระเบียบธนาคาร ในการพิจารณาคดีที่มีขึ้นในนครโฮจิมินห์ สื่อระบุ
“เราจะสู้ต่อไป ดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง” สมาชิกครอบครัวรายหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์ ซึ่งก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสิน เขากล่าวว่าลานจะอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว
ลานไม่ยอมรับผิดในข้อหายักยอกเงินและติดสินบน เหวียน ฮวี เถียบ หนึ่งในทนายความของลาน กล่าวกับรอยเตอร์
“แน่นอนว่าเธอจะอุทธรณ์คำตัดสิน” ทนายความกล่าว และเสริมว่าเธอถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหายักยอกทรัพย์ และถูกจำคุกจากข้อหาติดสินบนและละเมิดกฎระเบียบธนาคารข้อหาละ 20 ปี
ส่วนใหญ่แล้วเวียดนามกำหนดโทษประหารชีวิตกับความผิดรุนแรง แต่ยังรวมถึงอาชญากรรมทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าเวียดนามได้ตัดสินประหารนักโทษหลายร้อยคนในช่วงไม่กี่ปีมานี้
หนังสือพิมพ์แถ่งเนียนระบุว่า จำเลย 84 คน ในคดีนี้ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่คุมประพฤติ 3 ปี ไปจนถึงจำคุกตลอดชีวิต และหนึ่งในนั้นคือสามีของลาน นักธุรกิจจากฮ่องกงที่ถูกตัดสินจำคุก 9 ปี และหลานของเธอได้รับโทษจำคุก 17 ปี
ลานเริ่มต้นจากการเป็นคนขายเครื่องสำอางที่ตลาดกลางในนครโฮจิมินห์ เธอกล่าวกับผู้พิพากษาระหว่างการพิจารณา ตามการระบุของสื่อรัฐ และในเวลาต่อมา เธอได้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat ในปี 2535 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เธอแต่งงาน
เธอและผู้สมคบคิดของเธอถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินมากกว่า 304 ล้านล้านด่งจากธนาคาร Saigon Joint Stock Commercial Bank (SCB) ที่เธอควบคุมผ่านตัวแทนหลายสิบคน
ในช่วงต้นปี 2561 ถึงเดือน ต.ค.2565 เมื่อครั้งที่รัฐปล่อยกู้ให้ธนาคาร SCB ลานได้จัดสรรเงินจำนวนมากจากเงินกู้ให้บริษัทเปล่า (Shell Company) ของเธอโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้สืบสวนกล่าว
“การกระทำของจำเลยไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดสิทธิในการจัดการทรัพย์สินของบุคคลและองค์กรเท่านั้น แต่ยังทำให้ธนาคาร SCB ตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งทำลายความไว้วางใจของประชาชนในการเป็นผู้นำของพรรคและรัฐ” หนังสือพิมพ์ VnExpress รายงานอ้างคำกล่าวของคณะลูกขุน
ก่อนที่ลานจะถูกดำเนินคดี เธอมีบททบาทสำคัญในโลกการเงินของเวียดนาม ลานได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ SCB ที่ประสบปัญหาก่อนหน้านี้ ก่อนที่เธอจะมีส่วนทำให้ธนาคารต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหม่อีกครั้ง
เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่ปิดหูปิดตา โดยจ่ายเงิน 5.2 ล้านดอลลาร์ให้ผู้ตรวจสอบอาวุโสของธนาคารกลาง ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
การปราบปรามการติดสินบนของเวียดนาม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐและผู้บริหารธุรกิจระดับสูงหลายร้อยคนถูกดำเนินคดีหรือถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่ง
การทุจริตคอร์รัปชันแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ที่หลายคนกล่าวว่าพวกเขาต้องจ่ายสินบนเพียงเพื่อให้ได้รับบริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐ ตามการสำรวจของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและองค์กรอื่นๆ.
